Tuesday, 21 May 2024
Eec Time Team

ผอ.ศรชล.ภาค 1 ปฐมนิเทศกำลังพล ให้เข้าใจในบทบาทและหน้าที่ เน้นความซื่อสัตย์สุจริต

วันที่ 8 ธ.ค.65 พลเรือโท พิชัย ล้อชูสกุล ผอ.ศรชล.ภาค 1/ผบ.ทรภ.1 เป็นประธานในพิธีเปิดการอบรมปฐมนิเทศกำลังพล ศรชล.ภาค 1 ประจำปี งป.2566 โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้กำลังพลที่ปฏิบัติราชการใน ศรชล.ภาค 1 มีความรู้ ความเข้าใจในบทบาท หน้าที่ โครงสร้างของกฎหมาย พระราชบัญญัติที่เกี่ยวข้องและประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมา ให้สามารถนำไปเป็นแนวทางการปฏิบัติงานได้ทันที โดยผ่านการบรรยายถ่ายทอดองค์ความรู้และประสบการณ์ จากข้าราชการในฝ่ายอำนวยการ ศรชล.จังหวัด ศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือจังหวัด ตลอดจนวิทยากรจากหน่วยงานของรัฐ เพื่อเสริมสร้างและเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานให้กับกำลังพลของ ศรชล.ภาค 1

ฉะเชิงเทรา-ททท. สำนักงานฉะเชิงเทรา ขอประชาสัมพันธ์กิจกรรม “เติมบุญ สุขใจ สถานีต่อไปชุมทางฉะเชิงเทรา”

วันที่ 5 ธันวาคม 2565 ​นายจิรศักดิ์ อ่วมอุไร ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท. สำนักงานฉะเชิงเทรา กล่าวว่า กิจกรรม “เติมบุญ สุขใจ สถานีต่อไปชุมทางฉะเชิงเทรา” จัดขึ้นภายใต้ "โครงการจุดหมายสายศรัทธา ปักหมุดมา 365 วัน @ฉะเชิงเทรา-สมุทรปราการ" ได้ร่วมมือกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และภาคีเครือข่ายด้านการท่องเที่ยวจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้แก่ หอการค้าจังหวัดฉะเชิงเทรา สมาคมการค้าธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดฉะเชิงเทรา มีวัตถุประสงค์ เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดฉะเชิงเทรา ด้วยขบวนรถพิเศษ 901/902 (รถจักรไอน้ำ) เส้นทางกรุงเทพ-ฉะเชิงเทรา-กรุงเทพ วันที่ 5 ธันวาคม 2565 “วันพ่อแห่งชาติ” เพื่อนำเสนอเส้นทางท่องเที่ยว (เส้นทางนำร่อง) ให้กับนักท่องเที่ยว เชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวเชิงศาสนา แหล่งท่องเที่ยวชุมชนที่สำคัญของจังหวัดฉะเชิงเทรา ผนวกกับการเดินทางโดยรถไฟรุ่นคลาสสิกที่ให้ประสบการณ์ความรู้สึกย้อนวันวาน เพื่อมากราบสักการะขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในจังหวัดฉะเชิงเทรา

โดยคาดหวังว่าการจัดกิจกรรมครั้งนี้ จะเป็นเส้นทางนำร่องที่สามารถต่อยอดเสนอขายเส้นทางท่องเที่ยวร่วมกับพันธมิตร และจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวภายใต้ "โครงการจุดหมายสายศรัทธา ปักหมุดมา 365 วัน @ฉะเชิงเทรา-สมุทรปราการ" ได้ต่อไปในอนาคต รวมทั้งจะช่วยกระตุ้นความถี่ในการเดินทางของนักท่องเที่ยว เกิดการกระจายรายได้สู่จังหวัดฉะเชิงเทราเพิ่มมากขึ้นด้วย

Swap & Go - Stallions Group ผนึกกำลังส่งเสริมประเทศใช้งานจักรยานยนต์ไฟฟ้า พร้อมขยายพิกัดสับเปลี่ยนแบตฯ ดันสังคมไทยไร้มลพิษ

Swap & Go จับมือ Stallions Group เดินหน้าส่งเสริมการใช้งานรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า พร้อมขยายเครือข่าย Battery Swapping ทางเลือกใหม่เพื่อสังคมไร้มลพิษ

(8 ธ.ค. 65) นางสาวอาวีมาศ สิริแสงทักษิณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สวอพ แอนด์ โก จำกัด (Swap & Go) และนายธีรเจต ลาภจตุรพิธ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตาเลียน มอเตอร์ไซค์เคิล จำกัด (Stallions) เปิดตัวโครงการความร่วมมือส่งเสริมการใช้งานรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า พร้อมขยายเครือข่าย Battery Swapping หรือสลับเปลี่ยนแบตเตอรี่ สร้างทางเลือกในการใช้พลังงานสะอาด เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของคนไทย ถือเป็นกลไกสำคัญที่สอดรับกับแผนพัฒนาประเทศ และเป็นการขยายผลจากต้นแบบการดำเนินธุรกิจในลักษณะแพลตฟอร์มและโครงสร้างพื้นฐานการสลับเปลี่ยนแบตเตอรี่ให้กับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าโดยไม่ต้องรอชาร์จของ Swap & Go ที่ได้พัฒนาแบตเตอรี่รุ่นใหม่ที่มีพลังงานสูงขึ้น รองรับการขยายตัวของผู้ใช้งานรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นในอนาคต

ปลุกพลังคนรุ่นใหม่ สร้างสรรค์โลกดิจิทัล ไปกับกิจกรรม DIGITAL YOUTH NETWORK THAILAND เยาวชนอาสาดิจิทัล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในโครงการ HACKaTHAILAND 2023 : DIGITAL INFINITY

กิจกรรมที่จะช่วยส่งต่อแนวคิด Digital Literacy เสริมสร้างเกราะป้องกันให้กับเยาวชน นักเรียน นักศึกษา พร้อมก้าวสู่การเป็นผู้นำเยาวชนในโลกดิจิทัล ในหลักสูตร DIGITAL YOUTH NETWORK THAILAND เยาวชนอาสาดิจิทัล

โดยหลักสูตรในรอบ DIGITAL TRAINER มีวิทยากรที่มาร่วมถ่ายทอดองค์ความรู้ แชร์ประสบการณ์ พร้อมเสริมสร้างทักษะในการปรับตัวบนโลกดิจิทัล อาทิ Introduction to Digital Youth Network, Digital Skill and Knowledge, 21st-Century Opportunity, Youth Leader New Gen และอื่น ๆ อีกมายมาย

✏️เปิดรับสมัคร วันนี้ – 10 ธันวาคม 2565
คลิกไปที่ https://forms.gle/g555mMnpTtRYXiic8
?ประกาศผลวันที่ 12 ธันวาคม 2565 (เพียง 50 คน เท่านั้น!)

โดยผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจะต้องเข้ารับการอบรมเป็นเวลา 3 วัน 2 คืน ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 22-24 ธันวาคม 2565

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมทีมงาน SEED Thailand 0958158305

สตม. รวบผู้ต้องหาชาวเกาหลี OVERSTAY มี INTERPOL Red Notice คดีร่วมกับพวกฉ้อโกง ความเสียหายรวมกว่า 1,600 ล้านบาท

กก.1 บก.สส.สตม. จับกุมนายเยจุน (นามสมมติ) อายุ 51 ปี สัญชาติเกาหลี โดยกล่าวหาว่า เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางละมุง จว.ชลบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมาย สถานที่จับกุม บริเวณลานจอดรถของคอนโดมิเนียมย่าน ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

พฤติการณ์จับกุม กองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับหนังสือจากกงสุลฝ่ายตำรวจประจำสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลี ประจำประเทศไทย ประสานงานขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการผลักดันนายเยจุน (นามสมมติ) ผู้ต้องหาตามหมายจับสาธารณรัฐเกาหลีในคดีฉ้อโกง และเป็นบุคคลเป็นที่ต้องการตัวของทางการสาธารณรัฐเกาหลี ตามประกาศตำรวจสากลสีแดง (INTERPOL Red Notice) ที่ A-6937/8-2022 ลงวันที่ 19 ส.ค.2565

โดยมีพฤติการณ์ในการกระทำผิด กล่าวคือ นายเยจุน ซึ่งมีตำแหน่งเป็นผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการเงินของกลุ่มบริษัทหนึ่งในสาธารณรัฐเกาหลี ในระหว่างเดือน พ.ย. 2561 ถึงเดือน เม.ย. 2563 ได้ร่วมกับพวก สมรู้ร่วมคิดในการยักยอกทรัพย์สิน จำนวนเงินรวม 491 พันล้านวอน จากบริษัท 5 แห่ง เช่น Kales Hoidings Inc. Chankhanee Invest Inc. โดยมีการโอนเงินดังกล่าวไปยังบัญชีธนาคารของผู้ต้องหาสำหรับวัตถุประสงค์ส่วนตัว และยังสมรู้ร่วมคิดกันโดยให้บริษัท Vivien Inc. เข้าซื้อหุ้นของบริษัท Infinity&T Inc จำนวน 11,307,150 หุ้น โดยราคาซื้อ 5,085 วอนต่อหุ้น รวมมูลค่าความเสียหายทั้งหมดกว่า 62,406 ล้านวอน หรือคิดเป็นเงินไทยกว่า 1,647 ล้านบาท แล้วหลบหนีเข้ามาอยู่ในประเทศไทย

คนพิการเตรียมเฮ!! จุรินทร์ เคาะแก้ระเบียบบอร์ด “อำนวยความสะดวก-เข้าถึงสิทธิ เพิ่มจำนวนผู้ดูแล”

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชิวิตคนพิการแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.65 ซึ่งมีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ได้มีการพิจารณาแก้ไขระเบียบ กพช. เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนพิการ และเพิ่มการคุ้มครองสิทธิคนพิการที่ไม่มีผู้ดูแลและสิทธิของผู้ดูแลคนพิการ โดยที่ผ่านมา นายจุรินทร์ ได้สั่งการให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พิจารณาการลดขั้นตอนในการเข้าถึงสิทธิการขอความช่วยเหลือจากภาครัฐ และการสนับสนุนการทำงานของผู้ดูแลคนพิการ

ทั้งนี้ กพช.ได้เห็นชอบให้มีการแก้ไขระเบียบ โดยมีสาระสำคัญ อาทิ
1. เพิ่มช่องทางการยื่นคำขอการปรับสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัย การขอคุ้มครองสิทธิ โดยสามารถแจ้งต่ออาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) ประธานชุมชนองค์กรเอกชน หรือหน่วยบริการในพื้นที่ และสามารถยื่นคำขอหรือทำการแจ้งผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ ทำให้คนพิการสามารถเข้าถึงสิทธิได้มากขึ้นและสะดวกกว่าเดิมอย่างมาก
2. เพิ่มหน่วยงานในการฝึกอบรมผู้ช่วยคนพิการ โดยได้รับอุดหนุนงบประมาณจากกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ หรือกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ซึ่งจะทำให้มีจำนวนผู้ช่วยคนพิการมากขึ้น สอดรับความต้องการที่จำเป็นของคนพิการ
3. ผู้ช่วยคนพิการสามารถปฏิบัติงานเป็นรายชั่วโมงหรือรายวันตามความต้องการของคนพิการ เพื่อให้ผู้ช่วยคนพิการสามารถดูแลคนพิการตามความต้องการของคนพิการอย่างถูกต้อง

ประกันสังคม เปิดโอกาสให้ผู้ประกันตนมาตรา 33 มาตรา 39 ที่ประสงค์เปลี่ยน รพ.ในปี 66 เตรียมยื่นเรื่องผ่าน 4 ช่องทาง เริ่มตั้งแต่ 16 ธ.ค.นี้

นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน แจ้งว่า สำนักงานประกันสังคมได้เปิดให้ผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39 สามารถแจ้งขอเปลี่ยนสถานพยาบาล ประจำปี ด้วยเหตุจำเป็นไม่ได้รับความสะดวกในการไปรับบริการทางการแพทย์ ณ สถานพยาบาลที่เลือกไว้ ก่อนหน้านี้ เช่น ย้ายที่พักอาศัย ย้ายสถานที่ประจำทำงาน สามารถเริ่มเปลี่ยนสถานพยาบาลได้ ในวันที่ 16 ธันวาคม 2565 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2566

โดยสามารถเลือกเปลี่ยนสถานพยาบาลได้ใน 4 ช่องทางคือ ยื่นแบบการเลือกสถานพยาบาลในการรับบริการทางการแพทย์ สปส. 9-02 ได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา ทุกแห่งทั่วประเทศ หรือทำรายการผ่านเว็บไซด์ www.sso.go.th หรือทำรายการผ่าน Application SSO Connect และทำรายการผ่าน Line official sso โดยเพิ่มเพื่อน @ssothai (กรณีการเปลี่ยนสถานพยาบาลผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชั่นแล้ว ไม่จำเป็นต้องยื่นเอกสารที่สำนักงานประกันสังคมอีก)

“บลูเทค ซิตี้” ประสานความร่วมมือกับกลุ่มภาคีเครือข่าย ลงนาม MOU สร้างทุ่งสมุนไพรป่าชายเลนแห่งแรกของประเทศไทย

​วันนี้ 6 ธันวาคม 2565 ที่บริเวณทุ่งสมุนไพรป่าชายเลน ภายในนิคมอุตสาหกรรมฉะเชิงเทรา บลูเทค ซิตี้ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) โครงการทุ่งสมุนไพรป่าชายเลน ภายใต้แนวคิดการพัฒนาเศรษฐกิจแบบองค์รวม (BCG Model) โดยมีนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA นางสาวกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ผู้บริหารนิคมอุตสาหกรรมบลูเทคซิตี้ และภาคีเครือข่าย 7 สถาบัน ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) โครงการทุ่งสมุนไพรป่าชายเลน ภายใต้แนวคิดการพัฒนาเศรษฐกิจแบบองค์รวม (BCG Model) ได้แก่ เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว

สุพัฒนพงษ์ แจง ครม.คืบ ผลถก รมต.พลังงานอาเซียน ซื้อขายไฟฟ้า เชื่อมโยงท่อก๊าซข้ามพรมแดน

เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 65 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.รับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีพลังงานอาเซียน ครั้งที่ 40 และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้องเมื่อวันที่ 13-16 กันยายน 2565 ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ โดยมีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมประชุม โดยสรุปสาระสำคัญที่ประชุม รัฐมนตรีพลังงานอาเซียน ได้รับรองถ้อยแถลงร่วมของการประชุมฯ ได้แก่

1.ด้านไฟฟ้า มีการเชื่อมโยงโครงข่ายสายส่งไฟฟ้าอาเซียน (รวม 16 โครงการ ณ เดือนกันยายน 2564) โดยมีกำลังไฟฟ้าที่ถ่ายเทระหว่างประเทศสมาชิกรวม 26,644-30,114 เมกะวัตต์ และดำเนินโครงการบูรณาการด้านไฟฟ้าระหว่างลาว ไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ได้สำเร็จ โดยกำหนดปริมาณการซื้อ-ขายไฟฟ้าสูงสุดที่ 100 เมกะวัตต์ชั่วโมง ระหว่างปี 2565-2566

2.ด้านก๊าซธรรมชาติ มีการเชื่อมโยงท่อส่งก๊าซอาเซียน มุ่งเน้นการพัฒนาตลาดก๊าซร่วมสำหรับภูมิภาค การขยายการเชื่อมโยงและการเข้าถึงก๊าซธรรมชาติ และการติดตามความคืบหน้าในการพัฒนาท่อส่งก๊าซข้ามพรมแดน

3.ด้านถ่านหินและเทคโนโลยีถ่านหินสะอาด มีจัดการประชุมของผู้แทนระดับสูงอาเซียน เมื่อวันที่  10 สิงหาคม 2565 เพื่อรวบรวมแนวทางและนโยบายเกี่ยวกับเทคโนโลยี ลำดับ ชื่อเรื่อง สาระสำคัญ ข้อเสนอแนะ ถ่านหินสะอาด และเทคโนโลยีการดักจับ การกักเก็บ และการใช้ประโยชน์คาร์บอน เพื่อกำหนดทิศทางการดำเนินการด้านถ่านหินของอาเซียนให้เป็นทิศทางเดียวกัน

4. ด้านพลังงานหมุนเวียน สถานะของการเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนของอาเซียน ในปี 2563 สัดส่วนพลังงานทดแทนเมื่อเทียบกับปริมาณพลังงานทั้งหมดที่ผลิตได้ของอาเซียนอยู่ที่ร้อยละ 14.2 ซึ่งอาเซียนตั้งเป้าไว้ที่ร้อยละ 23 ในปี 2568

กระทรวงศึกษาฯ ประกาศนโยบายการเรียนประวัติศาสตร์แนวใหม่ เน้นทันสมัย-น่าสนใจ

วันที่ 6 ธ.ค. 65 ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้จัดนิทรรศการ 'การจัดการเรียนการสอนประวัติศาสตร์' โดยมีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ คณะรัฐมนตรี ร่วมชมนิทรรศการ ซึ่งนางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้ประกาศนโยบายและจุดเน้นเรื่องการจัดการเรียนการสอนประวัติศาสตร์ ประจำปีงบประมาณ 2566 โดยการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนประวัติศาสตร์ หน้าที่พลเมือง และศีลธรรม ให้มีความทันสมัย น่าสนใจ เหมาะสมกับวัยของผู้เรียน ควบคู่ไปกับการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของท้องถิ่น และการเสริมสร้างวิถีชีวิตของความเป็นพลเมืองที่เข้มแข็ง ซึ่งจัดนิทรรศการในวันนี้ ศธ.ต้องการสะท้อนให้เห็นถึงการส่งเสริมการจัดการเรียนการสอนประวัติศาสตร์ ใน 4 ส่วน ดังนี้

ส่วนแรก วิชาประวัติศาสตร์ประกาศความเป็นไทย ปรับโครงสร้างเวลาเรียนรายวิชาพื้นฐาน ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 โดยได้จัดทำร่างประกาศ ศธ.เรื่อง การบริหารจัดการโครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษา 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ และ 1 รายวิชาพื้นฐานประวัติศาสตร์ ของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ โครงสร้าง 8+1 เพื่อให้สถานศึกษานำไปใช้ในการส่งเสริมการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ด้วยวิธีการที่หลากหลาย ทั้งในมิติของการจัดการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล และการใช้สื่อและแหล่งเรียนรู้


TRENDING
© Copyright 2022, All rights reserved. Eec Time Thailand
Take Me Top