Wednesday, 8 May 2024
พรรคภูมิใจไทย

‘อภิชา’ ลาออก ‘ส.ส.-ดีดตัวออกกลุ่มไลน์พรรค’ เจ้าตัวระบุ ยังสังกัด ‘ภูมิใจไทย’ ขอรอดู ‘กำนันป้อ’ ก่อนตัดสินใจย้ายไปพรรคไหน

(20 ม.ค.66) นายอภิชา เลิศพชรกมล ส.ส.นครราชสีมา พรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า ได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็น ส.ส. ต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรแล้ว และมีผลในวันนี้ (20 ม.ค.) เนื่องจากสภาล่มบ่อย จึงไม่มีประโยชน์ที่จะอยู่ต่อ ขอไปทำพื้นที่ดีกว่า ซึ่งตอนนี้ยังอยู่ในสังกัดพรรคภูมิใจไทย ยังไม่ได้ลาออกจากสมาชิกพรรคแต่อย่างใด 

เมื่อถามว่า เตรียมตัวจะย้ายสังกัดไปพรรคอื่นหรือไม่ นายอภิชา กล่าวว่า ยังไม่ได้คิด รอดูนายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.คมนาคม ก่อน เพราะนายวีรศักดิ์สุขภาพไม่ค่อยดี จะยุติบทบาททางการเมือง ตนก็เลยออกมาตั้งหลัก สภาก็ล่มบ่อยด้วย ตอนนี้ยังอยู่พรรคภูมิใจไทย ยังไม่ได้ออกจากภูมิใจไทย หลังจากลาออกจาก ส.ส.ก็จะเน้นลงพื้นที่เป็นหลัก

นายอภิชา เปิดเผยอีกว่า ได้แจ้งเรื่องการลาออกจาก ส.ส.กับนายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาพรรคภูมิใจไทยแล้ว ซึ่งนายสรอรรถ ก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะเห็นว่าเป็นการตัดสินใจที่เป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส.

‘ภูมิใจไทย’ แชมป์พรรคการเมือง หลังได้รับเงินบริจาคมากที่สุด

เมื่อวันที่ 19 ม.ค.66 ที่ผ่านมา เว็บไซต์คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่บัญชีเงินบริจาคพรรคการเมือง ประจำเดือนพฤศจิกายน 2565 รวมทั้งหมด 14 พรรค โดยพรรคที่ได้รับเงินบริจาคสูงสุดคือ ‘พรรคภูมิใจไทย’ จำนวน 26,000,000 บาท รองลงมา คือ พรรคเพื่อไทย 16,000,000 บาท

ส่วน พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่มีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าพรรค และเพิ่งเปิดตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นสมาชิกพรรค เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2566 ได้รับบริจาค 3,000,000 บาท

สำหรับผู้บริจาคที่น่าสนใจของพรรคภูมิใจไทย พบว่า ปรากฏบริษัทเอกชนหลายรายร่วมบริจาค ได้แก่ หจก.น้ำก่ำก่อสร้าง ร่วมบริจาคสูงถึงจำนวน 10 ล้านบาท บริษัท บีเอสซี โอเปอเรชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด บริจาค 1 ล้านบาท บริษัท ธนาวิส 2020 จำกัด จำนวน 1 ล้านบาท

ขณะที่ นายนรเทพ อมรางกูร บริจาค 3 ล้านบาท น.ส.ทัศนีย์ โพธารส นายกำพล อัศวโชค น.ส.สุภัทรา สอนแตง และนายธวัช เบญจพลชัย บริจาคคนละ 2 ล้านบาท นายบุญส่ง ศิริมาศเกษม บริจาค 1 ล้านบาท

‘อนุทิน’ รุดประสานช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทันที หลังพบ อุบัติเหตุรถชนระหว่างทางกลับบ้าน

ไม่ปล่อยผ่าน! ‘อนุทิน’ พบอุบัติเหตุรถชน ระหว่างทางกลับบ้าน ก่อนลงไปช่วยให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บ รุดประสานส่งผู้บาดเจ็บถึงโรงพยาบาล

เมื่อ 22 มกราคม 2566 เวลา 22.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้เสร็จสิ้นภารกิจการลงพื้นที่พบปะประชาชน บริเวณชุมชนโรงปูน ห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร ระหว่างเดินทางกลับที่พัก ได้พบผู้ประสบอุบัติเหตุบนท้องถนน บริเวณปากซอยสาธุประดิษฐ์ 19 ถ.สาธุประดิษฐ์  พบผู้บาดเจ็บ ในที่เกิดเหตุ เป็นผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์บางคน นอนอยู่ที่ถนน ร้องด้วยความเจ็บปวด ไม่สามารถขยับตัวได้ นายอนุทิน ได้ลงจากรถ มาดูแลเหตุการณ์ และให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บ พร้อมเร่งประสานให้เจ้าหน้าที่มารับผู้ประสบอุบัติเหตุ ไปโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน  ล่าสุดผู้บาดเจ็บได้รับการช่วยเหลือที่โรงพยาบาลแล้ว

ที่มา : https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid02GFoGNzMUQg2dxrLXhNao3UEB5Kyxschpe5piTE1Yzj5o4RfP7c1FmSSA8xy5i5vFl&id=100045046695853&mibextid=Nif5oz

‘ลุงหนู’ ลั่น!! แนวทาง ภท. ‘ไม่พูด-ด้อยค่า’ นโยบายพรรคอื่น ชี้!! ถ้านโยบายของใครเป็นประโยชน์ พร้อมสนับสนุน

‘อนุทิน’ โว!! กระแส ‘ลุงหนู’ ไม่แพ้ ‘ลุงตู่-ลุงป้อม’ มั่นใจ ปักธง กทม. ลั่น!! ภท.พร้อมเสนอตัวแก้ปัญหาคนกรุง ยัน!! นโยบายค่ารถไฟฟ้าไม่เกิน 40 บาท ศึกษามาดีแล้ว แทงกั๊ก!! จับขั้วการเมือง ชี้!! ให้รอผลเลือกตั้งก่อน

(23 ม.ค.66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการเริ่มลงพื้นที่ในกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า ในการลงพื้นที่ดังกล่าว เราได้ปราศรัยนโยบายที่พรรคภูมิใจไทยจัดทำ เวลาพูดอะไรไป ประชาชนก็ชอบใจ เพราะสิ่งที่พูดไปนั้นถูกใจเขา และจะลงไปพื้นที่อื่นด้วย เพราะเราตั้งใจจะส่งผู้สมัคร ส.ส.กทม.ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

ถ้าถามว่าคาดหวังเขตไหน ก็ต้องบอกว่าคาดหวังทุกเขต แต่ขึ้นอยู่กับหลายอย่าง ทั้งนโยบายพรรค ความแข็งแรง ความขยัน และความเป็นที่นิยมของผู้สมัคร ในแต่ละเขต เราจะทำให้ดีที่สุด

ผู้สื่อข่าวถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่าจะสามารถปักธงได้ใน กทม. หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า มั่นใจ ต้องมั่นใจเพราะกรุงเทพฯ เป็นเมืองสำคัญ ซึ่งเราทำประโยชน์ให้กับจังหวัดอื่น ๆ ไปแล้ว เหลือแต่กรุงเทพฯ ที่พรรคภูมิใจไทย ยังไม่มี ส.ส. จึงอยากเสนอตัวเข้ามา เพราะถ้าเรามี ส.ส.ของเราเอง ก็คิดว่าจะสามารถแก้ปัญหาหลายอย่างได้ ในรูปแบบการร่วมมือทำงานให้เกิดประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด ไม่ใช่ไปแข่งหรือแย่งกันทำงาน เพราะกทม.มีผู้ว่าราชการกรุงเทพ อยู่แล้ว เราก็แค่มาเสริม แบ่งเบาภาระ ประชาชนจะได้ประโยชน์สูงสุด

เมื่อถามว่าพรรคภูมิใจไทยจะมีนโยบายอะไรที่โดนใจคนกรุงเทพฯ เพราะพรรคอื่นก็ต้องการปักธง ส.ส.ใน กทม. เช่นเดียวกัน นายอนุทิน กล่าวว่า จะใช้ผลงานในช่วงที่เราเป็นรัฐบาล และได้ทำนโยบายที่ได้หาเสียงไว้ครั้งที่แล้วออกมาเป็นรูปธรรมได้แทบทุกนโยบาย และเราไม่ได้มีความขัดแย้งกับใคร ไม่ชอบและไม่เชื่อว่าความขัดแย้งจะทำให้ประเทศก้าวหน้าได้ แต่เชื่อว่าการทำงานและทำนโยบายให้ครบถ้วนจะทำให้บ้านเมืองได้ประโยชน์สูงสุด และแนวทางของพรรคภูมิใจไทย เวลาหาเสียง เราจะไม่พูดถึงพรรคอื่น ไม่ได้ด้อยค่านโยบายของใคร และถ้านโยบายของพรรคอื่นเป็นประโยชน์ ก็ควรสนับสนุนด้วยซ้ำ เพราะคิดว่าทุกคนปรารถนาดีที่จะทำงานให้กับบ้านเมือง และอุปสรรคใหญ่คือความขัดแย้ง การด้อยค่าและการพูดจาเสียดสีกันเป็นสิ่งที่คนที่อาสามาเป็นตัวแทนประชาชนไม่ควรทำ และถ้ามัวแต่ทะเลาะกัน จะหาความร่วมมือกันได้อย่างไร

เมื่อถามย้ำว่ามั่นใจหรือไม่ว่านโยบายเรื่องค่าโดยสารรถไฟฟ้าที่พรรคภูมิใจไทยได้นำเสนอแล้ว จะซื้อใจคนกรุงเทพฯ ได้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า มั่นใจ เพราะ ช่วง 4 ปีที่ผ่านมา พรรคภูมิใจไทยกำกับดูแลกระทรวงคมนาคม เวลาที่พูดว่าค่าโดยสารจะไม่เกิน 40 บาท เราได้มีการศึกษาเรื่องการคุ้มค่าของการลงทุน และประโยชน์ของประชาชน อีกทั้งมีต้นแบบ มีข้อมูล ไม่ใช่มาพูดเพื่อให้ประชาชนรู้สึกดีแล้วมาเลือก คนที่บริหารบ้านเมืองมา 4 ปี ไปพูดชุ่ย ๆ ไม่ได้ แต่พูดโดยใช้ข้อมูลเป็นตัวประกอบ อาทิ มีการศึกษาราคาไม่เกิน 42-43 บาท เราก็หาวิธีการทำให้ราคาไม่เกิน 40 บาท เพื่อให้วิน-วินสำหรับประชาชนและผู้ประกอบการ ประชาชนจะขึ้นโดยสารกี่รอบก็ได้ และผู้ประกอบการไม่ขาดทุน เพราะการทำระบบขนส่งสาธารณะให้ประชาชน จะคิดแต่ได้กำไรมากไม่ได้ ถ้าขาดทุนเล็กน้อยหรืออยู่ตัว แต่เป็นประโยชน์กับประชาชน ก็ต้องทำให้ เพื่อให้ประชาชนลดต้นทุนการดำรงชีวิต มีรายได้เพิ่มขึ้นอีกแบบหนึ่ง

'อนุทิน' เปิด 'พรรคภูมิใจไทย' รับรอง 'ทูตอินเดีย' หารือประเด็น 'สาธารณสุข-การท่องเที่ยว-การเมือง'

เมื่อวานนี้ (24 ม.ค.66) ณ ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย นายนาเกช ซิงห์ (Nagesh Singh) เอกอัครราชทูตอินเดียประจำราชอาณาจักรไทย พร้อมคณะ เดินทางเข้าเยี่ยมคารวะ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย, นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาพรรคภูมิใจไทย, นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนสมาชิกพรรคภูมิใจไทย และนายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้ เพื่อแนะนำตัว และหารือถึงเรื่องต่าง ๆ ภายหลังรับตำแหน่งเอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย

สำหรับประเด็นที่มีการพูดคุย หารือแลกเปลี่ยน คือเรื่องสาธารณสุข รวมถึง MOU ด้านการสาธารณสุขระหว่างไทยและอินเดีย เรื่องการส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางหนึ่งที่นักท่องเที่ยวชาวอินเดียประสงค์ที่จะเดินทางมา ปัจจุบันพบว่ามีนักท่องเที่ยวชาวอินเดียเดินทางมาประเทศไทยมากขึ้น

โดยเฉพาะผู้ที่จะเดินทางมาจัดงานมงคลสมรส ตามสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ อาทิ เชียงใหม่, หัวหิน, ภูเก็ต ซึ่งถือเป็นตลาดที่น่าสนใจ เพราะการจัดงานจะปิดโรงแรม และใช้ระยะเวลา 3-4 วัน ทั้งนี้ หลังจากสถานการณ์โควิดคลี่คลาย คิดว่าการท่องเที่ยวจะมีจำนวนมากยิ่งขึ้น

นโยบายโดนใจ!! ‘ณัฐธิดา’ รองปธ. อบจ.ปทุมธานี สวมเสื้อ ภท. เผย ชื่นชอบนโยบายพรรค ‘พูดแล้วทำ’

‘ภูมิใจไทย’ เปิดบ้านต้อนรับ ‘หนึ่ง-ณัฐธิดา’ รองปธ.อบจ. ปทุมธานี เข้าเป็นสมาชิกพรรคอย่างเป็นทางการ เจ้าตัวบอกชื่นชอบนโยบายพรรค ‘พูดแล้วทำ’

เมื่อวันที่ 25 ม.ค. ที่พรรคภูมิใจไทย นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี และรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และนายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย ให้การต้อนรับ น.ส.ณัฐธิดา เกียรติพัฒนาชัย สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี รองประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ลำดับที่ 1 เข้าสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย และสวมเสื้อแจ็คเก็ตพรรคภูมิใจไทย

น.ส.ณัฐธิดา กล่าวว่า รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เข้ามาร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย เนื่องจากเป็นพรรคการเมืองที่ ‘พูดแล้วทำ’ ที่สำคัญคือให้โอกาสคนทำงาน ได้เข้ามาทำงาน เพื่อแก้ไขปัญหาปากท้องพี่น้องประชาชน เพราะมีนโยบายดีๆหลายอย่าง

‘ศุภชัย’ มองเกม ‘ก้าวไกล’ ค้านย้าย ‘หมอสภัทร’ เข้าตำรา ‘น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า’ ของคนพวกเดียวกัน

‘ศุภชัย ใจสมุทร’ ตั้งข้อสังเกต ‘ก้าวไกล’ ออกตัวคัดค้าน ย้าย ‘หมอสุภัทร’ เข้าตำรา น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า ชี้ โยกย้ายข้าราชการโดยไม่กลั่นแกล้งถือเป็นเรื่องปกติ

กระทรวงสาธารณสุขได้มีคำสั่งย้ายนายแพทย์สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ จากผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ จังหวัดสงขลา ประธานชมรมแพทย์ชนบทไปเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลสะบ้าย้อย จ.สงขลา ซึ่งไม่ห่างไกลกันมากนัก

ต้องยอมรับความจริงว่า ในช่วงที่นายแพทย์สุภัทร นั่งเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ ได้ปรับปรุงระบบบริการ การบริหารจัดการโรงพยาบาลจะนะไปมากจนเป็นที่พอใจของประชาชน

อีกบริบทหนึ่งของนายแพทย์สุภัทร คือการขับเคลื่อนทางสังคมในฐานะประธานชมรมแพทย์ชนบท และมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการคัดค้านนิคมอุตสาหกรรมก้าวหน้าจะนะ ที่มีเยาวชนกลุ่มรักษ์บ้านเกิดจะนะ เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการคัดค้าน ซึ่งเป็นโครงการภายใต้การผลักดันของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เพื่อให้เกิดเมืองต้นแบบของเหลี่ยมเศรษฐกิจ และนิคมอุตสาหกรรมก้าวหน้าจะนะ เป็นหนึ่งในสี่ของเมืองเหลี่ยมเศรษฐกิจ

ถ้านิคมอุตสาหกรรมก้าวหน้าจะนะเกิดขึ้นจริง จะเกิดการลงทุนหลายแสนล้าน เกิดการจ้างงานหลายหมื่นอัตรา จะเกิดท่าเรือ ภายใต้การลงทุนของภาคเอกชน

แต่เมื่อมีกลุ่มคัดค้าน ทางภาครัฐก็ต้องรับฟังความคิดเห็นที่รอบด้าน ทำให้โครงการนี้ยังชะลออยู่ โดยอยู่ระหว่างการศึกษารายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (SEA) โดยนายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินโครงการจัดทำการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ (SEA) สำหรับแผนแม่บทการพัฒนาเชิงพื้นที่ของจังหวัดสงขลาและปัตตานี ว่า เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.2565 สศช.ได้ลงนามสัญญาว่าจ้างมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) ในการจัดทำ SEA แผนแม่บทการพัฒนาเชิงพื้นที่ของจังหวัดสงขลาและปัตตานี วงเงินค่าจ้าง 28.22 ล้านบาท

ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์จะเริ่มต้นศึกษา SEA แผนแม่บทฯดังกล่าว ตั้งแต่เดือน ม.ค.2566 โดยใช้เวลาศึกษานาน 18 เดือน หรือแล้วเสร็จในช่วงกลางปี 2567 ขณะที่การจัดทำ SEA ครั้งนี้ จะมีการจัดเวทีประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนรวม 40 เวที และมีผู้เข้าร่วมฯไม่น้อยกว่า 3,000 คน แบ่งเป็นปี 2566 จำนวน 32 เวที โดยมีผู้เข้าร่วมไม่น้อยกว่า 2,100 คน และปี 2567 จำนวน 8 เวที โดยมีผู้เข้าร่วมไม่น้อยกว่า 900 คน 

"สภาพัฒน์ฯ" พยายามที่จะให้ทุกฝ่ายได้มีส่วนร่วมในการจัดทำแผนแม่บทในครั้งนี้เพื่อลดความขัดแย้ง และความซ้ำซ้อนในการทำงานลง เบื้องหากแผ่นแม่บทการพัฒนาพื้นที่สงขลา และ ปัตตานีแล้วเสร็จ จะมีการคัดเลือกแนวทางที่เหมาะสมกับการพัฒนาพื้นที่ต่อไป ทั้งนี้สภาพัฒน์ฯคาดกการณ์ว่า หากแผนออกมาแล้วจะเกิดการพัฒนาเชิงพื้นที่ในพื้นที่ภาคใต้ที่มีความครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

สภาพัฒน์ใช้คำว่า แผนแม่บทการพัฒนาพื้นที่สงขลา-ปัตตานี เข้าใจได้ว่ายังไม่เลือกพื้นที่ แต่ประชาชนทั่วไปรับรู้กันหมดแล้วว่า จะเกิดขึ้นในสามตำบลของอำเภอจะนะ ย่านตำบลตลิ่งชัน ต.สะกอม นั่นแหละ

‘ก้าวไกล’ ขวางย้าย ‘หมอสุภัทร’

โดย "ก้าวไกล" ออกแถลงการณ์ ไม่เห็นด้วย ปมย้าย "หมอสุภัทร" พร้อมเรียกร้องให้กระทรวงสาธารณสุข ทบทวนคำสั่ง

โดยแถลงการณ์ระบุว่า พรรคก้าวไกลขอแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับคำสั่งดังกล่าว และขอตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการโยกย้ายด้วยเหตุผลทางการเมืองหรือไม่ เนื่องจากนายแพทย์สุภัทรเป็นข้าราชการที่ทำงานเป็นปากเสียงแทนประชาชน มีความกล้าหาญในการแสดงความเห็นคัดค้านผู้มีอำนาจ และเปิดเผยข้อมูลสาธารณสุขที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมอย่างต่อเนื่อง จึงขอให้กระทรวงสาธารณสุขทบทวนคำสั่งดังกล่าวโดยคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศและประชาชน

'ลุงหนู' ลงพื้นที่โคราช พบ 'บุญจง' หลังรีเทิร์น พรรคภูมิใจไทย ชนเด็ก 'กำนันป้อ' ที่หอบกันไปย้ายซบเพื่อไทย

เมื่อวานนี้ (27ม.ค.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ รมว. สาธารณสุข และ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้ลงพื้นที่นครราชสีมา และได้พบกับ นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ อดีต รมช.มหาดไทย

โดยมีรายงานว่า นายบุญจง จะสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทยอีกครั้ง และลงสมัคร ส.ส. นครราชสีมา เขต 9 แข่งกับ นายอภิชา เลิศพชรกมล อดีต ส.ส.นครราชสีมา ที่พึ่งลาออกจากพรรคภูมิใจไทย พร้อม นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล อดีต รมช.คมนาคม ที่มีกระแสข่าวจะไปอยู่พรรคเพื่อไทย

ที่มา: https://mgronline.com/politics/detail/9660000008546

คนกรุงเริ่มเขว!! 'โพล' ชี้!! นโยบาย 'ภูมิใจไทย' โดนใจคนกรุงเทพฯ ยก 'บี-พุทธิพงษ์' มีผลงาน ไร้ประวัติด่างพร้อย

(28 ม.ค.66) ดร.นพดล กรรณิกา หัวหน้าโครงการวิจัย สำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผลสำรวจ ประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศจำนวน 2,078 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 25-27 ม.ค. เรื่อง 'ใจคน กทม. กับ นโยบาย ภูมิใจไทย' เมื่อถามประชาชนคนกรุงเทพมหานคร ต่อ นโยบายภูมิใจไทย พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 94.6 ชอบนโยบาย เครื่องฉายรังสีรักษามะเร็ง ศูนย์เครื่องฟอกไต ผู้สูงอายุ ฉีดวัคซีนฟรีถึงบ้าน

รองลงมาคือ ร้อยละ 94.0 ชอบนโยบายรักษามะเร็งฟรี ร้อยละ 93.0 ชอบ นโยบาย วัคซีน ป้องกัน ปอดอักเสบ ไข้หวัดใหญ่ โควิดฟรีฉีดถึงบ้าน ร้อยละ 92.9 ชอบ นโยบาย ลดรายจ่าย รถ เรือ เริ่มต้น 15 บาทตลอดวันไม่เกิน 50 บาท ร้อยละ 92.8 ชอบ นโยบาย ลดค่าไฟ ติดโซล่าร์ ลูฟฟรี ทุกครัวเรือน ร้อยละ 92.2 ชอบ นโยบาย ฟอกไตฟรี ร้อยละ 91.8 ชอบนโยบายเครื่องกรองน้ำฟรีทุกชุมชน ร้อยละ 91.7 ชอบ นโยบายลดรายจ่าย พักหนี้ 3 ปี หยุดต้น ปลอดดอกเบี้ย ลดภาษี

ขณะที่ร้อยละ 91.6 ชอบ นโยบาย เพิ่มรายได้คนกรุงเทพ เปิดพื้นที่การค้าขาย กระจายรายได้เพิ่มกิจกรรมรองรับนักท่องเที่ยวได้ 24 ชั่วโมง ร้อยละ 90.4 ชอบนโยบาย เพิ่มรายได้คนกรุงเทพ พันธบัตรรัฐบาลที่ประชาชนทั่วไปมีสิทธิก่อน ส่งเสริมการออมประกันเงินฝาก เพิ่มความมั่นคงในการออม ร้อยละ 90.2 ชอบ นโยบาย ลดรายจ่าย รถไฟฟ้า เริ่มต้น 15 บาท ตลอดสาย ไม่เกิน 40 บาท และร้อยละ 88.3 ชอบนโยบาย มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า สำหรับวินรับจ้าง คันละ 6,000 บาท ตามลำดับ

'ศักดิ์สยาม' ลุย!! 'อุบลราชธานี-อำนาจเจริญ-ยโสธร' เปิดตัว 10 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ตอกเสาเข็ม 'ภท.' ในอีสาน

เมื่อวันที่ 28-29 ม.ค.2566 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย เดินทางลงพื้นที่ในกิจกรรมประชุมชี้แจงนโยบายพรรคภูมิใจไทย พร้อมขึ้นเวทีปราศรัยเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคจำนวน 10 เขต ในพื้นที่ 3 จังหวัดคือ อุบลราชธานี, อำนาจเจริญ และยโสธร ท่ามกลางประชาชนที่มารอต้อนอย่างคึกคักในแต่ละจุดจำนวนหลายพันคน

โดยนายศักดิ์สยาม ยืนยันว่า ว่าที่ผู้สมัครฯ ของพรรคภูมิใจไทยทุกคน ล้วนมีความรู้ความสามารถและประสบการณ์ ที่ตนเดินทางมาในครั้งนี้เพื่อการันตีความเป็นภูมิใจไทยว่า พูดแล้วทํา และมาตอกเสาเข็มทุกต้นให้ทุกพื้นที่เจริญก้าวหน้าต่อไป ส่วนว่าที่ผู้สมัครฯ บางคน แม้จะยังไม่มีตำแหน่ง ส.ส. แต่ที่ผ่านมาก็เป็นที่ประจักษ์ว่า ได้ลงพื้นที่คอยอยู่เคียงข้างประชาชนเสมอ เลือกตั้งรอบนี้จึงอยากให้พี่น้องประชาชนให้โอกาสเข้าไปทำหน้าที่ในสภาฯ


TRENDING
© Copyright 2022, All rights reserved. Eec Time Thailand
Take Me Top