Thursday, 28 March 2024
ชลบุรี

บุกตรวจผับดังพัทยา พบนักเที่ยวฉี่ม่วง 33 ราย ค้นรถเจอปืน-ยาเสพติด

ตำรวจพัทยาบุกตรวจผับดัง ผงะนักเที่ยวราตรีชายหญิงจำนวนมากกำลังกินดื่มสนุกสนาน คุมตัวตรวจฉี่พบสีม่วง 33 ราย ค้นรถเจอปืน เครื่องกระสุน และยาเสพติด นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป

เมื่อเวลา 01.50 น. วันที่ 12 ต.ค. 65 พ.ต.อ.กุลชาต กุลชัย ผกก.สภ.เมืองพัทยา พ.ต.ท.เกริกฤทธิ์ สายวรรณะ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองพัทยา นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เข้าตรวจสอบ สถานบันเทิง ไดร์ตี้ ผับ ภายในซอยกอไผ่ หมู่ 10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อไปถึงพบผับกำลังเปิดให้บริการ มีนักเที่ยวกว่า 50 คน กำลังดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ เต้นตามจังหวะเพลงกันอย่างเมามัน เจ้าหน้าที่จึงสั่งให้ปิดเพลง เปิดไฟ ก่อนตรวจสอบบัตรประจำตัวประชาชน พร้อมตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมาย

อดีตเทศมนตรี บางเสร่ ตามหาผู้จัด 'ทริปสาวแก้ผ้า' ชี้!! กิจกรรมไม่สร้างสรรค์ จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

อุบาทว์! พบเรือนำเที่ยวจัดทริปสาวแก้ผ้าริมหาดบางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พร้อมข้อความเชิญชวน “ตกหมึก+ดูดนม+ชมหอย ท่านละ 3,000 บาท 4 ชั่วโมง” อดีนนายก ทต.บางเสร่ ฉุนขาดประกาศเข้าแจ้งความเอาผิดผู้ใช้ Twitter “คู่แท้ พัทยา Pattaya สะอาด” วันนี้

จากกรณีที่นาย ชัยวัฒน์ อินอนงค์ หรือตั้ม อดีตนายกเทศมนตรีตำบลบางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวระบุข้อความ “ตกปลาไม่ได้ปลา_ตกหมึกไม่ได้หมึก คือธุรกิจใหม่สร้างสรรค์เสียเหลือเกิน #ไม่รู้พวกคุณคือใคร_แต่อย่าทำธุรกิจแบบนี้บนพื้นที่บ้านเกิดของผม #บางเสร่ไม่ปล่อยผ่าน #ใครทราบเบาะแสหรือเคยเห็นบุคคลเหล่านี้_รู้จักรบกวน_inbox_มาแจ้งหน่อยครับ # เตรียมเข้าร้องทุกข์แจ้งความดำเนินคดีให้ถึงที่สุด #ชายหาดบางเสร่ #สนับสนุนให้พี่น้องทำมาหากินให้อยู่ในระเบียบและกติกาสังคม”

นอกจากนั้น ใต้ข้อความยังปรากฏภาพหญิงสาว 2 ราย ถอดเสื้อโชว์เต้านมบริเวณริมชายหาดบางเสร่ ท่ามกลางนักท่องเที่ยวที่เข้ามานั่งพักผ่อนหย่อนใจ อีกทั้งยังแก้ผ้าเปลือยกายถ่ายภาพโชว์บนเรือนำเที่ยวสีขาว บนเก๋งเรือติดไซเรนสีแดง พร้อมโพสต์ข้อความตามล่าหาตัวผู้กระทำถือเป็นภาพที่อุจาดตาอย่างมากนั้น

2 สาวโป๊เปลือยที่บางเสร่ เข้ามอบตัวแล้ว อ้างทำไปเพื่อสร้างคอนเทนต์ ยัน!! ไม่มีการร่วมเพศ

จากกรณี ปรากฏภาพ 2 สาว โป๊เปลือยกายริมชายหาด และบนเรือนำเที่ยวสีขาว ที่ถูกถ่ายไว้ ณ ชายหาดบางเสร่ ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ก่อนถูกเผยแพร่ว่อนในทวิตเตอร์ หลังเหตุการณ์ดังกล่าวถูกปรากฏอยู่บนสื่อโซเชียล ทำให้ชาวบางเสร่เกิดความไม่พอใจเป็นอย่างมาก ถึงการกระทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อสถานที่ท่องเที่ยว และเป็นชุมชนกลุ่มประมงที่มีวิถีมาแต่ช้านาน นั้น

คืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 19 ต.ค. ที่ สภ.สัตหีบ น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 27 ปี และ น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 24 ปี ได้เดินทางเข้ามอบตัวต่อ พ.ต.อ.ปัญญา ดำเล็ก ผกก.สภ.สัตหีบ โดยแสดงตัวว่า เป็นบุคคลผู้ที่ปรากฏในภาพเปลือย ที่กำลังถูกเผยแพร่ว่อนอยู่ในอินเทอร์เน็ตขณะนี้ เบื้องต้น ได้เตรียมดำเนินคดีในความผิดฐาน กระทำอนาจารต่อหน้าธารกำนัล สร้างความเสื่อมเสีย และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

โดยสาวผู้ก่อเหตุทั้ง 2 ราย ได้ให้การรับสารภาพว่า ทำการถ่ายรูปโป๊เปลือยดังที่ปรากฏจริง โดยมีแฟนหนุ่มเป็นผู้ถ่ายให้ โดยอ้างเหตุผลว่า เพื่อใช้ในการสร้างคอนเทนต์เรียกลูกค้าให้มาใช้บริการ และต้องการเรียกยอดไลค์ ไม่มีการค้าประเวณี หรือมีการร่วมเพศแต่อย่างใด ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ช่วงต้นเดือน ต.ค. 65 แต่ก็ยังไม่มีลูกค้าติดต่อมาขอใช้บริการ ส่วนการจ้างเรือนำเที่ยวออกไปในทะเล “ดูนม ชมหอย ตกหมึก กินซาเซมิ” ได้เสียค่าเช่าเรือครั้งละ 4,500 บาท

หวั่นธรรมชาติพังหลังท่องเที่ยวฟื้น นายกเมืองพัทยาสั่งผู้ประกอบการร่มเตียงชายหาดพัทยา และหาดจอมเทียน ต้องสลับกันหยุดบริการทุกวันพุธที่ 2 และ 3 ของเดือน หวังคืนความสมดุลทางธรรมชาติ เปิดทางเจ้าหน้าที่ทำความสะอาด

วันนี้ (19 ต.ค.) นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา เผยถึงนโยบายการดูแลสิ่งแวดล้อมบริเวณชายหาดเมืองพัทยา และหาดจอมเทียน ว่า จากนี้ไปเมืองพัทยาจะกำหนดให้ผู้ประกอบการร่มเตียงชายหาดทั้ง 2 แห่งต้องสลับกันหยุดประกอบกิจการในทุกวันพุธที่ 2 และ 3 ของเดือน เพื่อคืนสมดุลทางธรรมชาติ หลังในพื้นที่เริ่มมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเพิ่มมากขึ้น จากสถานการณ์โควิด-19 ที่เริ่มคลี่คลายจนทำให้การท่องเที่ยวในพื้นที่เริ่มฟื้นตัว ประกอบกับนโยบายเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติของรัฐบาลที่ทำให้มีการเดินทางเข้าพื้นที่มากขึ้น 

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการร่วมเตียงชายหาดพัทยา จะหยุดประกอบกิจการในวันพุธที่ 3 ของเดือน ส่วนชายหาดจอมเทียนจะหยุดทุกพุธที่ 2 ของเดือน เพื่อให้เจ้าหน้าที่สำนักสิ่งแวดล้อมเมืองพัทยา ได้ทำความสะอาดชายหาด รวมทั้งยังเป็นการฟื้นฟูธรรมชาติให้กลับมามีความสมบูรณ์

“ก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 เมืองพัทยาได้กำหนดมาตรการให้ผู้ประกอบกิจการร่มเตียงชายหาดหยุดทุกวันพุธของเดือน และเมื่อเกิดการแพร่ระบาดของโรค เมืองพัทยาจึงอนุโลมให้ผู้ประกอบการได้ประกอบกิจการในวันพุธ เพื่อแบ่งเบาความเดือดร้อนและกระตุ้นการท่องเที่ยวในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทย และเมื่อสถานการณ์การท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัวแล้ว เมืองพัทยาจึงเห็นควรว่าควรมีเวลาให้ธรรมชาติได้หยุดพักบ้าง”

นายกเมืองพัทยา ยังเผยถึงสาเหตุที่ไม่อนุญาตให้ผู้ประกอบการร่มเตียงทั้ง 2 ชายหาดมีวันหยุดตรงกัน เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มีทางเลือกในการใช้บริการเมื่อเดินทางเข้ามายังเมืองพัทยา

“อาจจะมีลูกค้าบางรายที่อยากนั่งร่มเตียงชายหาดจะได้มีตัวเลือกในการใช้บริการ แต่อย่างไรก็ตาม ในอนาคตเมืองพัทยาจะปรับรูปแบบการให้บริการนักท่องเที่ยวเพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยว และอาจมีการขยายเวลาให้ผู้ประกอบการได้มีเวลาขายที่ยาวขึ้นในช่วงวันหยุดนักขัตฤกษ์อีกด้วย” นายกเมืองพัทยา กล่าว

เริ่มแล้วปรับภูมิทัศน์ชายหาดพัทยา สวนนุงนุช ขนคน-เครื่องจักรเดินหน้าทำงาน

เริ่มแล้วปรับภูมิทัศน์ชายหาดพัทยา หลังบริษัทผู้รับเหมาและเมืองพัทยา ได้ทำการปรับรูปแบบจนถูกใจประชาชนโดยไม่แตะต้องต้นไม้ใหญ่สัญลักษณ์ชายหาด สวนนุงนุช ขนคน-เครื่องจักรเดินหน้าทำงาน

หลังจากที่เคยเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์สำหรับโครงการปรับภูมิทัศน์ชายหาดเมืองพัทยาเหนือ-พัทยาใต้ จ.ชลบุรี ที่ใช้งบประมาณดำเนินงานสูงถึง 166 ล้านบาท ซึ่ง เมืองพัทยา ได้ลงนามว่าจ้างบริษัท นงนุชแลนด์ แลนด์สเคป แอนด์การ์เด้นดีไซน์ จำกัด ให้เข้าทำการปรับสภาพภูมิทัศน์ชายหาดพัทยาตั้งแต่โค้งโรงแรมดุสิต พัทยาเหนือ ตามโครงการปรับภูมิทัศน์ชายหาดพัทยาเหนือ-ใต้ ตลอดระยะทาง 2.7 กิโลเมตร

โดยโครงการดังกล่าวมีสัญญาว่าจ้างระหว่างวันที่ 6 ส.ค.2564-3 พ.ค.2566 รวมระยะเวลา 820 วัน ด้วยหวังปรับโฉมชายหาดพัทยาใหม่ภายใต้ชื่อ Pattaya New look ตามโครงการ “Neo Pattaya” ที่จะมีทั้งการขยายผิวจราจรเพื่อให้รถยนต์ของประชาชนและนักท่องเที่ยวสามารถสัญจรได้โดยสะดวก

และยังมีแผนตัดร่นแนวพื้นฟุตปาธเดิมออกไปในระยะ 2-3 เมตรเพื่อจัดทำที่จอดรถเพิ่มเติมตลอดแนวถนนฝั่งทะเล ซึ่งเป็นแนวคิดใหม่ในการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวที่ปัจจุบันคือนักท่องเที่ยวในประเทศเป็นหลักจากสถานการณ์ระบาดโควิด-19 ที่ทำให้หลายประเทศต้องห้ามไม่ให้มีการเดินทาง

โดยในวันนี้โครงการปรับภูมิทัศน์ชายหาดเมืองพัทยา ได้เริ่มขึ้นดำอย่างเป็นทางการแล้ว และบริษัทผู้รับเหมาได้ขนทั้งบุคลากร และเครื่องจักรกลลงพื้นที่เพื่อเปิดพื้นแนวฟุตปาธ -ขยายผิวจราจร –จัดทำสวนสาธารณะและลานกิจกรรมตามแบบที่ได้แก้ไขใหม่เพื่อไม่ให้กระทบกับแนวต้นไม้ขนาดใหญ่ที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของชายหาด

และในเบื้องต้นจะเริ่ทำการปรับสภาพพื้นที่คราวละ 200 เมตรจนกว่าจะสิ้นสุดแนวชายหาดตามสัญญาว่าจ้างต่อไป

สำหรับโครงการปรับภูมิทัศน์ชายหาดพัทยานั้น นอกจากจะมีการขยายผิวจราจรเพื่อทำพื้นที่จอดรถเพิ่มให้ได้อีก 200-300 คันแล้ว ยังจะมีการปรับแบบทางเดินเท้าฟุตปาธให้มีความสวยงามเพื่อรองรับการพักผ่อน ท่องเที่ยวและการออกกำลังได้

นอกจากนั้นยังแผนก่อสร้างห้องน้ำสาธารณะจำนวน 3 จุด และการปรับเปลี่ยนพื้นที่ริมชายหาดให้มีความสวยงามร่มรื่นจากการลงต้นไม้ขนาดใหญ่ และจะทำการขุดถอนต้นปาล์มนับร้อยต้น เพื่อนำไปปลูกไว้ที่สนามกีฬาแห่งชาติภาคตะวันออกและดูแลทนแทน


ที่มา : https://mgronline.com/local/detail/9650000103242

เด้งรองผบก. เปลี่ยนตัวผู้ต้องหาคดีฉาวพัทยา 'บิ๊กโจ๊ก' นำทีมแถลง

เด้งฟ้าผ่า รอง ผบก.ชลบุรี เรียกรับสินบนเปลี่ยนตัวผู้ต้องหาแก๊งบุกถล่มพูลวิลล่าเมืองพัทยา 'บิ๊กโจ๊ก' นำทีมแถลงจับผู้ต้องหา 10 คน แฉพฤติกรรมเถื่อน กลุ่มคนร้ายบุกทวงหนี้ แต่ไม่พบ เลยแค้นยิงยางรถ ด้ามปืนตบหัว บาดเจ็บไป 5 คน ถูกชุดสืบสวนตามไล่ล่ากดดันก่อนติดต่อขอมอบตัว นำ 2 ผู้ต้องหามาสมอ้างเป็นผู้ก่อเหตุ มีนายตำรวจใหญ่ชักใยช่วยเหลือ ก่อนย้ายเข้ากรุ ศปก.ภ.2 ดำเนินคดีเป็นเยี่ยงอย่าง

ย้ายฟ้าผ่ารอง ผบก. เรียกรับสินบนเปลี่ยนตัวแก๊งคนร้ายบุกถล่มพูลวิลล่า อุกอาจกลางเมืองพัทยา โดยเมื่อเย็นวันที่ 31 ต.ค. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิ สารรณชัย ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผบก.ภ.จ.ชลบุรี และ พ.ต.อ.กุลชาต กุลชัย ผกก.สภ.เมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ร่วมกันแถลงสรุปผลคดีแก๊งชายฉกรรจ์บุกทวงหนี้ทำร้ายร่างกายในบ้านพูลวิลล่า หาดจอมเทียนเมืองพัทยา จ.ชลบุรี มีผู้บาดเจ็บหลายราย เหตุเกิดวันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า สืบเนื่องจากมีคนร้ายเป็นกลุ่มชายฉกรรจ์ 6 คน ใช้รถยนต์โตโยต้า อัลพาร์ด ป้ายแดง บุกเข้าไปในพูลวิลล่าย่านหาดจอมเทียนเมืองพัทยาตามหาตัวลูกหนี้ แต่ไม่พบ สร้างความโกรธแค้นให้กับกลุ่มคนร้ายเป็นอย่างมาก ใช้ปืนยิงยางรถยนต์ของผู้เสียหาย 3 คัน แล้วใช้ด้ามปืนทุบศีรษะจนมีผู้บาดเจ็บ 5 ราย ก่อนแยกย้ายกันหลบหนีความผิด หลังเกิดเหตุตำรวจสืบสวนกดดันกลุ่มผู้ก่อเหตุ กระทั่งเพื่อนร่วมแก๊งติดต่อมอบตัว ปรากฏว่ามีการจ้างแพะมาตบตาเจ้าหน้าที่หวังให้รอดคุกพ้นความผิด

รอง ผบ.ตร.กล่าวอีกว่า จากการสืบสวนสอบสวนขยายผลพบหลักฐานว่า พ.ต.อ.กรวัฒน์ หันประดิษฐ์ รอง ผบก.ภ.จ.ชลบุรี มีส่วนเกี่ยวข้องในการช่วยเหลือเปลี่ยนตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี เพื่อมิให้ผู้ก่อเหตุตัวจริงถูกดำเนินคดี โดยมีการเรียกรับสินบนถึง 1 ล้านบาท สำนักงานตำรวจภูธรภาค 2 ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนความผิดวินัยขั้นร้ายแรง และแจ้งข้อหามาตรา 149 ฐานเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับประโยชน์ มาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่ไม่ชอบโดยทุจริต และมาตรา 200 เป็นเจ้าพนักงานฝ่ายสืบสวน ช่วยเหลือไม่ให้คนต้องรับโทษ หรือรับโทษลดลง ขณะนี้นายตำรวจที่ถูกกล่าวหาได้รับทราบข้อหา และถูกสั่งให้ย้ายมาประจำการที่ ศปก.ภ.2 ตั้งแต่วันที่ 31 ต.ค.เป็นต้นไป เพื่อให้การสอบสวนเป็นไปอย่างยุติธรรมที่สุด

“ขอยืนยันว่าการกระทำผิดที่เกิดขึ้นแม้ว่าจะเป็นเจ้าพนักงานรัฐระดับสูงก็จะต้องดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีละเว้น เพื่อให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นต่อระบบราชการจะได้เป็นเยี่ยงอย่างว่าแม้แต่เจ้าหน้าที่รัฐเมื่อทำผิดก็ต้องรับโทษเช่นกัน” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าว


ที่มา : https://www.thairath.co.th/news/local/east/2541041

ประมวลภาพบรรยายกาศวันพ่อแห่งชาติ ประจำปี 2565

ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นำหัวหน้าส่วนราชการ ศาล ทหาร ตำรวจ ร่วมพิธีทำบุญตักบาตรเนื่องในวันพ่อแห่งชาติ และวันดินโลก 5 ธันวาคม 2565

นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นำหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ศาล ทหาร ตำรวจ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์และพิธีทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งพระภิกษุสงฆ์ จำนวน 89 รูป เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิหลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ วันพ่อแห่งชาติและวันดินโลก  5 ธันวาคม 2565 เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ

โดยนายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ประธานในพิธี จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย จุดธูปเทียนบูชาเครื่องทองน้อย เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระสงฆ์ให้ศีลและสวดพระพุทธมนต์ประธานในพิธีถวายจตุปัจจัยไทยธรรม ถวายผ้าไตร จำนวน 10 ไตร พระสงฆ์สดับปกรณ์ อนุโมทนา ประธานในพิธีกรวดน้ำจากนั้นพระสงฆ์และสามเณรออกรับบิณฑบาต

ตำรวจไซเบอร์จับจับหนุ่มวิศวะคอมแอบถ่ายใต้กระโปรง มีคลิปดาราดังหลายคน!!

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 6 ธ.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทอง พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รองผบช.สอท. พล.ต.ต.กานตพงศ์ ชัยรุ่งเรือง ผบก.ตอท. พ.ต.อ.รุ่งเลิศ คันธจันทร์ ผกก. ตอท. พ.ต.ท.นนทพัทธ์ ยอดแก้ว รอง ผกก.ตอท. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ เข้าตรวรวจสอบบ้านเลขที่ 5/70 ม.12 ต.นาป่ อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี พบนายวรศักดิ์ ศรีวรวิบูลย์ 31 ปี พร้อมของกลางเป็นคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค 2 เครื่อง /extemal 4 ลูก / โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง / และกล้องขนาดเล็ก 1 ตัว ซึ่งเป็นผู้ดูแลระบบ (แอดมิน) และเป็นผู้นำข้อมูลเข่าสู่ระบบใน เพจ Akashi vip และเป็นผู้รับผลประโยชน์จากสมาชิกที่สมัครเข้าไปในกลุ่มลับดูคลิปแอบถ่ายใต้กระโปรงเด็กนักเรียน นักศึกษา จำนวน 259 คลิป

พล.ต.ท.วรวัฒน์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากชุดสืบสวนสืบทราบว่ามีผู้ใช้งานโปรแกรม VK เพจชุมชน ดูตีดี เผยแพร่สื่อลามกอนาจาร (ภาพถ่ายใต้กระโปรงเด็ก สตรี) มีผู้ดูแลระบบ (แอดมิน) โปรแกรม VK บัญชี ดูดีดี ได้ประกาศโฆษณา แก่บุคคลทั่วไปที่ประสงค์จะดูคลิปวีดีโอแอบถ่ายใต้กระโปรงของหญิง ให้สมัครเข้าร่วมกลุ่ม โดยมีค่าใช้จ่ายในการเข้ากลุ่มหลายราคามีราคา 250-1,000 บาท เมื่อมีผู้สมัครเข้ากลุ่มชำระด้วยเงินสด หรือบัตรเงินสดทรูมันนี่ ดูแลระบบจะดึงเข้าไปในกลุ่มลับ โปรแกรม VK ชื่อบัญชี Akashi vip 1 จากนั้นจะมีภาพซึ่งแอดมินได้โพสต์เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อยู่ในกลุ่ม จำนวน 527 ภาพ ตรงตามที่โฆษณาไว้ ภาพที่โพสต์มีทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว เป็นภาพสื่อลามกอนาจารใต้กระโปรง

พล.ต.ท.วรวัฒน์ เปิดเผยอีกว่า ช่วงที่ผ่านมาเกิดเหตุการณ์ลักษณะผู้หญิงฆ่าตัวตายจากการถูกคุกคามทางเพศ หากผู้หญิงถูกคุกคามและรับไม่ได้เกิดการคิดสั้นอยู่ในสังคมไม่ได้และมองว่าเป็นตราบาป เหตุการณ์นี้เจ้าหน้าที่จึงได้ดำเนินการสืบจับกุมและดำเนินคดีผู้ต้องหา และยังได้ฝากเตือนเตือนผู้หญิงที่สวมใส่กระโปรงสั้นให้ระมัดระวังเมื่อเดินในที่สาธารณะซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญที่ผู้ต้องหาใช้เลือกเหยื่อ ให้สังเกตว่ามีใครเข้ามาเดินตาม และก้มต่ำด้านหลัง ให้ระมัดระวังเพราะอาจตกเป็นเหยื่อได้

วิกฤตพะยูนไทย เสี่ยงใกล้สูญพันธุ์!!

วันที่ 6 ธ.ค. 65 กองทัพเรือ โดย นาวาเอก ศุภสิทธิ์ บูรณะโอสถ รองผู้บัญชาการฯ รักษาราชการ ผู้บัญชาการ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (ผบ.สอ.รฝ.) ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ ได้มีพะยูนขนาดใหญ่ตายเกยตื้น บริเวณหน้าอ่าวดงตาล ขณะนี้ได้ลากนำขึ้นมาบนชายฝั่ง สะพานท่าเทียบเรือตำรวจน้ำ หมู่ 1 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ขอให้ส่งเจ้าหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอล

ต่อมา ได้มอบหมายให้ น.สพ.กิริน สรพิพัฒน์เจริญ สัตวแพทย์ ประจำ ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเลกองทัพเรือ นำกำลังทหารมาทำการเคลื่อนย้ายซากพะยูน เพื่อทำการผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตาย จากการตรวจสอบในเบื้องต้น พบเป็นพะยูน เพศเมีย อายุราว 15 ปี ตามตัวมีร่องรอยของการถูกเส้นอวนบาด ยังไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิต ต้องรอผลผ่าพิสูจน์ทราบภายหลัง

สตม. รวบผู้ต้องหาชาวเกาหลี OVERSTAY มี INTERPOL Red Notice คดีร่วมกับพวกฉ้อโกง ความเสียหายรวมกว่า 1,600 ล้านบาท

กก.1 บก.สส.สตม. จับกุมนายเยจุน (นามสมมติ) อายุ 51 ปี สัญชาติเกาหลี โดยกล่าวหาว่า เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางละมุง จว.ชลบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมาย สถานที่จับกุม บริเวณลานจอดรถของคอนโดมิเนียมย่าน ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

พฤติการณ์จับกุม กองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับหนังสือจากกงสุลฝ่ายตำรวจประจำสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลี ประจำประเทศไทย ประสานงานขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการผลักดันนายเยจุน (นามสมมติ) ผู้ต้องหาตามหมายจับสาธารณรัฐเกาหลีในคดีฉ้อโกง และเป็นบุคคลเป็นที่ต้องการตัวของทางการสาธารณรัฐเกาหลี ตามประกาศตำรวจสากลสีแดง (INTERPOL Red Notice) ที่ A-6937/8-2022 ลงวันที่ 19 ส.ค.2565

โดยมีพฤติการณ์ในการกระทำผิด กล่าวคือ นายเยจุน ซึ่งมีตำแหน่งเป็นผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการเงินของกลุ่มบริษัทหนึ่งในสาธารณรัฐเกาหลี ในระหว่างเดือน พ.ย. 2561 ถึงเดือน เม.ย. 2563 ได้ร่วมกับพวก สมรู้ร่วมคิดในการยักยอกทรัพย์สิน จำนวนเงินรวม 491 พันล้านวอน จากบริษัท 5 แห่ง เช่น Kales Hoidings Inc. Chankhanee Invest Inc. โดยมีการโอนเงินดังกล่าวไปยังบัญชีธนาคารของผู้ต้องหาสำหรับวัตถุประสงค์ส่วนตัว และยังสมรู้ร่วมคิดกันโดยให้บริษัท Vivien Inc. เข้าซื้อหุ้นของบริษัท Infinity&T Inc จำนวน 11,307,150 หุ้น โดยราคาซื้อ 5,085 วอนต่อหุ้น รวมมูลค่าความเสียหายทั้งหมดกว่า 62,406 ล้านวอน หรือคิดเป็นเงินไทยกว่า 1,647 ล้านบาท แล้วหลบหนีเข้ามาอยู่ในประเทศไทย


TRENDING
© Copyright 2022, All rights reserved. Eec Time Thailand
Take Me Top