Friday, 29 March 2024
อีอีซีไทม์

ของดีปีละครั้ง!! กิจกรรม 'ตักปูใบไม้' ช่วงปลายฝนต้นหนาว

ของดีปีละครั้ง! กิจกรรมตักปูใบไม้คลองท่าตะเภา อ.เมืองตราด เทศบาลตำบลหนองเสม็ด พร้อมส่งเสริมเป็นการท่องเที่ยวเชิงนิเวศช่วงปลายฝนต้นหนาว ขณะชาวบ้านตลอด 2 ฝั่งคลองแห่นำสวิงออกตัก บางรายได้มากถึงคืนละ 20 กก. ชูเมนูเด็ดปูใบไม้ดองน้ำปลา

ค่ำวานนี้ (11 ต.ค.) นายกิตติพงษ์ อยู่ละออ นายกเทศมนตรีตำบลหนองเสม็ด พร้อมชาวบ้านท่าขนาด และชาวบ้านท่าตะเภา ม.2 ต.หนองเสม็ด อ.เมืองตราด กว่า 10 คน ได้พากันออกตักปูใบไม้ภายในคลองท่าตะเภา ที่มักจะมีจำนวนมากในช่วงปลายฝนต้นหนาว

โดยในช่วงใกล้หมดฝนเช่นนี้ชาวบ้านในพื้นที่จะรู้กันดีว่าบริเวณริมคลองธรรมชาติที่มีอยู่ในพื้นที่จะมีปูใบไม้จำนวนมาก พากันออกจากป่าชายเลนมาหากิน และขยายพันธุ์ จึงได้เฝ้าติดตามดูปริมาณปูใบไม้ตลอดทั้งสัปดาห์ และหากพบว่าจุดใดมีปูใบไม้จำนวนมากจะพากันนำสวิงที่มีความยาวประมาณ 3-4 เมตรออกมาดักตักปูเพื่อนำไปประกอบอาหารรับประทานกันในวงสังสรรค์

และหากวันใดได้ปูใบไม้จำนวนมาก จะนำไปดองน้ำปลาเพื่อเก็บไว้รับประทานในโอกาสต่อไป หรือนำมารับประทานกันแบบสดๆ ก็มี โดยชาวบ้านบางรายใช้เวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง สามารถตักปูใบไม้จากริมคลองได้มากถึง 20 กิโลกรัม และกิจกรรมดีๆ เช่นนี้จะมีเพียงปีละครั้งเท่านั้น

บุกตรวจผับดังพัทยา พบนักเที่ยวฉี่ม่วง 33 ราย ค้นรถเจอปืน-ยาเสพติด

ตำรวจพัทยาบุกตรวจผับดัง ผงะนักเที่ยวราตรีชายหญิงจำนวนมากกำลังกินดื่มสนุกสนาน คุมตัวตรวจฉี่พบสีม่วง 33 ราย ค้นรถเจอปืน เครื่องกระสุน และยาเสพติด นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป

เมื่อเวลา 01.50 น. วันที่ 12 ต.ค. 65 พ.ต.อ.กุลชาต กุลชัย ผกก.สภ.เมืองพัทยา พ.ต.ท.เกริกฤทธิ์ สายวรรณะ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองพัทยา นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เข้าตรวจสอบ สถานบันเทิง ไดร์ตี้ ผับ ภายในซอยกอไผ่ หมู่ 10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อไปถึงพบผับกำลังเปิดให้บริการ มีนักเที่ยวกว่า 50 คน กำลังดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ เต้นตามจังหวะเพลงกันอย่างเมามัน เจ้าหน้าที่จึงสั่งให้ปิดเพลง เปิดไฟ ก่อนตรวจสอบบัตรประจำตัวประชาชน พร้อมตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมาย

ชาวบ้านเจอจระเข้ในท้องร่อง ช็อกจนเป็นไข้

ชาวบ้านขุนด่าน ที่ อ.กบินทร์บุรี เผย ไปเก็บฝรั่งเจอจระเข้ในท้องร่องสวน ด้าน สมาชิก อบต. เขาไม้แก้ว ไปลงตาข่ายดักปลา พบตาข่ายถูกดันเข้าป่าคาดมากินปลาเน่า ขณะที่ชาวสวนรู้ข่าวกลัวนอนจับไข้

เมื่อวันที่ 12 ต.ค. 65 ได้รับแจ้งจากชาวบ้านขุนด่าน หมู่ 10 ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ว่า มีจระเข้อยู่ในท้องร่องสวนฝรั่งในขณะเดินลุยน้ำเก็บฝรั่ง เพื่อนบ้านบอกว่าเห็นจระเข้ลอยน้ำอยู่ในร่องน้ำสวนฝรั่งให้รีบออกมา เมื่อ 2 สาว ขึ้นมาบนฝั่งได้ถึงกับเป็นไข้ด้วยความกลัว ต้องนอนพักรักษาตัวถึง 2 วัน

จากการลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่าพื้นที่ดังกล่าวมีเนื้อที่ประมาณ 50 ไร่ มีการขุดเป็นร่องสวนปลูกฝรั่งบางส่วนและถูกน้ำท่วมสูงประมาณ 1.20 เมตร จากที่ชาวบานชี้ให้ดูยังพบร่องรอยทางเลื้อยคลานของเจ้าจระเข้ให้พบเห็น ซึ่งในขณะนี้ชาวบ้านส่วนใหญ่ที่ทราบข่าวไม่มีใครกล้าลงไปหาปลาหรือเก็บฝรั่งแต่อย่างใด

นายสำราญ บัวศรี สมาชิก อบต.เขาไม้แก้ว กล่าวว่า ชาวบ้านมาบอกว่าเห็นจระเข้ ผมก็มาดูกลางคืนเห็นตาจระเข้ลอยขึ้นมา พอมีคนมาจระเข้เขาก็ถอยลงไป วันสองวันชาวบ้านมาเห็นข้ามฝั่งคูน้ำทางโน้น ต้องรอให้ชัดเจนก่อนว่า ตัวใหญ่แค่ไหน จะได้รู้และบอกกันพื้นที่ไม่ให้ชาวบ้านเข้ามา ขนาดความยาวรวมหัวหางก็ประมาณ 2.50 เมตร ตัวเองไปลงตาข่ายดักปลากับแฟน ไปลงค้างคืนไว้พอดีเช้าไปเอาตาข่ายมีรอยดันตาข่ายเข้าไปในป่าจนตาข่ายหลุดไป ผมไม่คิดว่าเป็นจระเข้ ผมปลดปลาเน่าออกจากตาข่าย พอกลางคืนหลานชายมาดู ก็เจอตามากินปลาเน่า ชาวบ้านก็ไปดูกันก็เจอตาจริงๆ ทีแรกก็ไม่กลัวคิดว่าไม่มี พอมีจริงๆ ก็กลัว

'หรั่ง พระราม 2' ควงปืน ไล่ตบแก๊งวัยรุ่นพูลวิลล่า

นึกว่าบ้านป่าเมืองเถื่อน อุกอาจกลางเมืองพัทยา 'หรั่ง พระราม 2' พร้อมพวก ควงปืนไล่ตบแก๊งวัยรุ่นเที่ยวพูลวิลล่า เรียงตัว-ยิงถล่มล้อรถ ยึดบัตรประชาชน ก่อนขึ้นอัลพาร์ดเผ่นหนีลอยนวล หลังมาถามหาคนชื่อมิ้นท์ แต่ไม่เจอ ตำรวจมุ่งปมขัดแย้งผลประโยชน์และชู้สาว

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ (18 ตุลาคม 2565) พ.ต.ท.ธัชญ์ศักดิ์ จิรัฐติกุลชัย สว.สอบสวน หน่วยสอบสวนย่อยโค้งดงตาล สภ.เมืองพัทยา ได้รับแจ้งเหตุคนถูกอาวุธปืนตบได้รับบาดเจ็บหลายคน และมีรถยนต์ถูกอาวุธปืนยิงได้รับความเสียหายหลายคัน เหตุเกิดบ้านพลูวิลล่า เลขที่ 41/36 ถนนสายจอมเทียนสายสอง หมู่ 11 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมด้วย พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.กุลชาต กุลชัย ผกก.เมืองพัทยา ตำรวจฝ่ายสืบสวน ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน 2 ชลบุรี และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ฯ เมืองพัทยา รุดไปทำการตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บ 2 คน ทราบชื่อต่อมา คือ นายปริญญา รินทร์อำภา หรือ เจมส์ อายุ 22 ปี และ นายวรวิทย์ สระทองอ่อน หรือ เก่ง อายุ 22 ปี ทั้ง 2 คน อยู่ในสภาพศีรษะแตก เลือดไหลอาบร่าง เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องรีบปฐมพยาบาล และนำตัวส่ง รพ.เมืองพัทยา นอกจากนี้ ยังมีคนเจ็บอีก 4 คน เป็นชายวัยรุ่นทั้งหมด มีร่องรอยเขียวช้ำบริเวณใบหน้าและศีรษะ แต่ไม่ประสงค์ไปโรงพยาบาล

นอกจากนี้ บริเวณด้านหน้าบ้านพูลวิลล่า ยังพบ รถเก๋งฮอนด้าแจ๊ซ 3 คัน คันแรกสีขาว ทะเบียน ญฒ 7342 กทม. คันที่ 2 สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กฉ 6372 อุตรดิตถ์ และคันที่ 3 สีน้ำเงิน ทะเบียน 9กฉ 278 กทม. สภาพล้อยาง ด้านหน้าและด้านหลังถูกอาวุธปืนยิงจนยางรั่วทุกคัน นอกจากนี้ ยังพบปลอกกระสุนปืน ขนาด 9 มม. ตกอยู่ จำนวน 3 ปลอก และหัวกระสุน 1 นัด ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน เพื่อตรวจสอบลายนิ้วมือแฝงของคนร้าย

นางสาวเจ (นามสมมติ) อายุ 21 ปี แฟนสาวของ นายปริญญา หรือ เจมส์ หนึ่งในผู้ได้รับบาดเจ็บถูกอาวุธปืนตบ เล่าว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา ขณะกำลังนั่งดื่มเบียร์อยู่ข้างสระว่ายน้ำ จากนั้นได้มีชายฉกรรจ์ 5-6 คน ถืออาวุธปืนคนละกระบอก โดยมีลำกล้องเก็บเสียงติดที่ปลายกระบอกปืน บุกเข้ามา แล้วใช้อาวุธปืนจ่อที่ศีรษะ โดย 1 ในคนร้ายใช้ด้ามปืนไล่ตบศีรษะกลุ่มเพื่อนผู้ชายแบบเรียงตัว พร้อมทั้งถามหาคนชื่อมิ้นท์ ก่อนจะใช้อาวุธปืนจี้ ต้อนเพื่อนกลุ่มผู้ชายพาไปค้นห้องพักของแต่ละห้อง

ผวจ.ระยอง พบปะบุคลากรทางการศึกษา ประกาศ ขับเคลื่อนการศึกษาเป็นวาระจังหวัด ปี 66-70

เมื่อวันที่ (17 ต.ค. 65) ที่ห้องประชุมโรงเรียนมัธยมตากสินระยอง อ.เมือง จ.ระยอง นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ได้พบปะผู้บริหารสถานศึกษา ผู้แทนครู ผู้แทนกรรมการสถานศึกษา และผู้แทนองค์กรที่สนับการศึกษาในจังหวัดระยอง จำนวน 700 คน โดยในงานมี ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข สิบโทไชยยันต์ เกิดเหมาะ ศึกษาธิการจังหวัดระยอง นายปิยะ ปิตุเตชะ นายกอบจ.ระยอง ในฐานะประธานมูลนิธิส่งเสริมการศึกษาจังหวัดระยอง นายสมศักดิ์ พะเนียงทอง ผู้อำนวยการสถาบันการเรียนรู้ของคนทุกช่วงวัยจังหวัดระยอง(RILA) ร่วมบรรยายพิเศษหัวข้อ 'ระยองจังหวัดจัดการศึกษาเชิงพื้นที่ระยอง เมืองแห่งการเรียนรู้' ระยองเมืองแห่งสุขภาะ สู่ระยองเมืองน่าอยู่ รวมทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ยังได้บรรยายพิเศษในหัวข้อ 'วาระจังหวัดจัดการศึกษา เพื่อสร้างระยองเป็นเมืองน่าอยู่' ด้วย

นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง กล่าวว่า ในปีงบประมาณ 2566 จังหวัดระยอง เป็นพื้นที่เป้าหมาย 1 ใน 3 จังหวัดพื้นที่ EEC ที่จะรองรับการพัฒนาให้เกิดความมั่งคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ที่จะต้องมีการเตรียมโครงการพื้นฐานและกำลังคนอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการพัฒนาในพื้นที่ทุกมิติ และรับทราบในเบื้องต้นว่าจังหวัดระยอง ได้จัดการศึกษาเพื่อพัฒนากำลังคนให้มีศักยภาพ เพื่อรองรับการพัฒนาพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง และเพื่อให้มีทิศทางการพัฒนาให้ไปพร้อมกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ.2566-2570) จึงได้มีการพบปะกับบุคลากรทางการศึกษาของจังหวัดระยองดังกล่าวขึ้น พร้อมกับประกาศให้การจัดการศึกษาเป็นวาระของจังหวัด ที่ทุกหน่วยงานทางการศึกษาจะต้องจัดการศึกษา เพื่อตอบบริบทการพัฒนาจังหวัดระยองให้มีศักยภาพการแข่งขัน และเป็นเมืองน่าอยู่ในระดับภูมิภาค

19 ตุลาคม ‘วันเทคโนโลยีของไทย’ เทิดพระเกียรติพระอัจฉริยภาพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9

พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงเป็นพระบิดาแห่งเทคโนโลยีของไทย หลังทรงพระกรุณาบัญชาการปฏิบัติการทำฝนสาธิตด้วยพระองค์เอง เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2515

นอกจากจะทรงเป็นนักปกครองแล้ว พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ยังทรงมีอัจฉริยภาพทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จนเป็นที่ประจักษ์ไปทั่วโลก ด้วยเหตุนี้ประเทศไทยจึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และได้กำหนดให้ วันที่ 19 ตุลาคม เป็นวันเทคโนโลยีของไทย 

สาเหตุที่กำหนดให้วันที่ 19 ตุลาคม เป็นวันเทคโนโลยีของไทย เนื่องจาก เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2515 หรือเมื่อ 50 ปีที่แล้ว ด้วยพระปรีชาสามารถในการค้นคว้าทดลองและปฏิบัติการทำฝนหวังผล ให้ตกในพื้นที่เป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ประเทศสิงคโปร์ที่กำลังประสบภาวะแห้งแล้งอย่างรุนแรงเช่นเดียวกับสภาวะแห้งแล้งในพื้นที่ภาคใต้ตอนบน ได้แก่ จังหวัดเพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ในขณะนั้น ขอส่งนักวิทยาศาสตร์มาสังเกตการณ์และขอรับถ่ายทอดประสบการณ์และความเชี่ยวชาญใน การปฏิบัติการทำฝนหวังผลในประเทศไทย 

ในการนี้ทรงพระกรุณารับบัญชาการปฏิบัติการสาธิตด้วยพระองค์เอง ทรงกำหนดให้อ่างเก็บน้ำของเขื่อนแก่งกระจาน อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งมีพื้นที่ผิวน้ำเพียง 46.5 ตารางกิโลเมตรหรือ 1,162.5 ไร่ เป็นพื้นที่เป้าหมายหวังผลในการปฏิบัติการทำฝนสาธิตครั้งนี้ ซึ่งเป็นเป้าหมายที่เล็กที่สุดเท่าที่เคยปฏิบัติการค้นคว้าทดลองและปฏิบัติการทำฝนหวังผลที่ผ่านมา ทรงปฏิบัติการฯสาธิต ในวันที่ 19ตุลาคม 2515 ณ ศูนย์บัญชาการฯ สันเขื่อนแก่งกระจาน ทรงสามารถบังคับหรือชักนำฝนให้ตกลงสู่อ่างเก็บน้ำเขื่อนแก่งกระจานอย่างแม่นยำภายในเวลาประมาณ 5 ชั่วโมงนับจากเริ่มปฏิบัติการ เป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาและเป็นที่น่าอัศจรรย์แก่นักวิทยาศาสตร์สิงคโปร์ และข้าราชบริพารที่เป็นข้าราชการและข้าราชบริพารระดับสูงที่เฝ้าฯ สังเกตการณ์อยู่ ณ ที่นั้น ต่างประทับใจในพระมหากรุณาธิคุณและพระปรีชาสามารถ  

การสาธิตฝนครั้งนั้น ถือเป็นต้นกำเนิดเทคโนโลยีฝนหลวงที่พัฒนาเป็นการทำฝนมาถึงปัจจุบัน และเพื่อจารึกไว้เป็นเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ของชาติไทย ในวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2543  คณะรัฐบาลจึงมีมติให้เทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงเป็น 'พระบิดาแห่งเทคโนโลยีของไทย' และกำหนดให้วันที่ 19 ตุลาคมของทุกปีเป็น 'วันเทคโนโลยีของไทย' เพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดีและรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอด โดยได้ทรงศึกษาค้นคว้าวิจัย และทรงนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาประยุกต์ใช้แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ตลอดจนเป็นการแสดงเทคโนโลยีที่คิดค้นประดิษฐ์ และพัฒนาโดยคนไทย เพื่อเป็นการกระตุ้นให้สาธารณชนเกิดความเชื่อมั่นและเข้าร่วมพัฒนาเทคโนโลยีของไทย 

นอกจาก 'โครงการฝนหลวง' แล้ว พระองค์ยังทรงเป็นนักประดิษฐ์ และนักวิทยาศาสตร์ ดังจะเห็นได้จากโครงการในพระราชดำริ และที่เป็นสิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ หลายด้าน ตัวอย่างเช่น 

กังหันน้ำชัยพัฒนา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้ทรงประดิษฐ์คิดค้น  'เครื่องกลเติมอากาศที่ผิวน้ำหมุนช้าแบบทุ่นลอย' หรือ 'กังหันชัยพัฒนา' เพื่อทำหน้าที่เติมออกซิเจนลงไปในน้ำ เป็นการลดมลภาวะทางน้ำถือได้ว่า เป็นประวัติศาสตร์ของการออกสิทธิบัตรแก่สิ่งประดิษฐ์ของไทย

อดีตเทศมนตรี บางเสร่ ตามหาผู้จัด 'ทริปสาวแก้ผ้า' ชี้!! กิจกรรมไม่สร้างสรรค์ จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

อุบาทว์! พบเรือนำเที่ยวจัดทริปสาวแก้ผ้าริมหาดบางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พร้อมข้อความเชิญชวน “ตกหมึก+ดูดนม+ชมหอย ท่านละ 3,000 บาท 4 ชั่วโมง” อดีนนายก ทต.บางเสร่ ฉุนขาดประกาศเข้าแจ้งความเอาผิดผู้ใช้ Twitter “คู่แท้ พัทยา Pattaya สะอาด” วันนี้

จากกรณีที่นาย ชัยวัฒน์ อินอนงค์ หรือตั้ม อดีตนายกเทศมนตรีตำบลบางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวระบุข้อความ “ตกปลาไม่ได้ปลา_ตกหมึกไม่ได้หมึก คือธุรกิจใหม่สร้างสรรค์เสียเหลือเกิน #ไม่รู้พวกคุณคือใคร_แต่อย่าทำธุรกิจแบบนี้บนพื้นที่บ้านเกิดของผม #บางเสร่ไม่ปล่อยผ่าน #ใครทราบเบาะแสหรือเคยเห็นบุคคลเหล่านี้_รู้จักรบกวน_inbox_มาแจ้งหน่อยครับ # เตรียมเข้าร้องทุกข์แจ้งความดำเนินคดีให้ถึงที่สุด #ชายหาดบางเสร่ #สนับสนุนให้พี่น้องทำมาหากินให้อยู่ในระเบียบและกติกาสังคม”

นอกจากนั้น ใต้ข้อความยังปรากฏภาพหญิงสาว 2 ราย ถอดเสื้อโชว์เต้านมบริเวณริมชายหาดบางเสร่ ท่ามกลางนักท่องเที่ยวที่เข้ามานั่งพักผ่อนหย่อนใจ อีกทั้งยังแก้ผ้าเปลือยกายถ่ายภาพโชว์บนเรือนำเที่ยวสีขาว บนเก๋งเรือติดไซเรนสีแดง พร้อมโพสต์ข้อความตามล่าหาตัวผู้กระทำถือเป็นภาพที่อุจาดตาอย่างมากนั้น

2 สาวโป๊เปลือยที่บางเสร่ เข้ามอบตัวแล้ว อ้างทำไปเพื่อสร้างคอนเทนต์ ยัน!! ไม่มีการร่วมเพศ

จากกรณี ปรากฏภาพ 2 สาว โป๊เปลือยกายริมชายหาด และบนเรือนำเที่ยวสีขาว ที่ถูกถ่ายไว้ ณ ชายหาดบางเสร่ ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ก่อนถูกเผยแพร่ว่อนในทวิตเตอร์ หลังเหตุการณ์ดังกล่าวถูกปรากฏอยู่บนสื่อโซเชียล ทำให้ชาวบางเสร่เกิดความไม่พอใจเป็นอย่างมาก ถึงการกระทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อสถานที่ท่องเที่ยว และเป็นชุมชนกลุ่มประมงที่มีวิถีมาแต่ช้านาน นั้น

คืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 19 ต.ค. ที่ สภ.สัตหีบ น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 27 ปี และ น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 24 ปี ได้เดินทางเข้ามอบตัวต่อ พ.ต.อ.ปัญญา ดำเล็ก ผกก.สภ.สัตหีบ โดยแสดงตัวว่า เป็นบุคคลผู้ที่ปรากฏในภาพเปลือย ที่กำลังถูกเผยแพร่ว่อนอยู่ในอินเทอร์เน็ตขณะนี้ เบื้องต้น ได้เตรียมดำเนินคดีในความผิดฐาน กระทำอนาจารต่อหน้าธารกำนัล สร้างความเสื่อมเสีย และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

โดยสาวผู้ก่อเหตุทั้ง 2 ราย ได้ให้การรับสารภาพว่า ทำการถ่ายรูปโป๊เปลือยดังที่ปรากฏจริง โดยมีแฟนหนุ่มเป็นผู้ถ่ายให้ โดยอ้างเหตุผลว่า เพื่อใช้ในการสร้างคอนเทนต์เรียกลูกค้าให้มาใช้บริการ และต้องการเรียกยอดไลค์ ไม่มีการค้าประเวณี หรือมีการร่วมเพศแต่อย่างใด ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ช่วงต้นเดือน ต.ค. 65 แต่ก็ยังไม่มีลูกค้าติดต่อมาขอใช้บริการ ส่วนการจ้างเรือนำเที่ยวออกไปในทะเล “ดูนม ชมหอย ตกหมึก กินซาเซมิ” ได้เสียค่าเช่าเรือครั้งละ 4,500 บาท

หวั่นธรรมชาติพังหลังท่องเที่ยวฟื้น นายกเมืองพัทยาสั่งผู้ประกอบการร่มเตียงชายหาดพัทยา และหาดจอมเทียน ต้องสลับกันหยุดบริการทุกวันพุธที่ 2 และ 3 ของเดือน หวังคืนความสมดุลทางธรรมชาติ เปิดทางเจ้าหน้าที่ทำความสะอาด

วันนี้ (19 ต.ค.) นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา เผยถึงนโยบายการดูแลสิ่งแวดล้อมบริเวณชายหาดเมืองพัทยา และหาดจอมเทียน ว่า จากนี้ไปเมืองพัทยาจะกำหนดให้ผู้ประกอบการร่มเตียงชายหาดทั้ง 2 แห่งต้องสลับกันหยุดประกอบกิจการในทุกวันพุธที่ 2 และ 3 ของเดือน เพื่อคืนสมดุลทางธรรมชาติ หลังในพื้นที่เริ่มมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเพิ่มมากขึ้น จากสถานการณ์โควิด-19 ที่เริ่มคลี่คลายจนทำให้การท่องเที่ยวในพื้นที่เริ่มฟื้นตัว ประกอบกับนโยบายเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติของรัฐบาลที่ทำให้มีการเดินทางเข้าพื้นที่มากขึ้น 

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการร่วมเตียงชายหาดพัทยา จะหยุดประกอบกิจการในวันพุธที่ 3 ของเดือน ส่วนชายหาดจอมเทียนจะหยุดทุกพุธที่ 2 ของเดือน เพื่อให้เจ้าหน้าที่สำนักสิ่งแวดล้อมเมืองพัทยา ได้ทำความสะอาดชายหาด รวมทั้งยังเป็นการฟื้นฟูธรรมชาติให้กลับมามีความสมบูรณ์

“ก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 เมืองพัทยาได้กำหนดมาตรการให้ผู้ประกอบกิจการร่มเตียงชายหาดหยุดทุกวันพุธของเดือน และเมื่อเกิดการแพร่ระบาดของโรค เมืองพัทยาจึงอนุโลมให้ผู้ประกอบการได้ประกอบกิจการในวันพุธ เพื่อแบ่งเบาความเดือดร้อนและกระตุ้นการท่องเที่ยวในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทย และเมื่อสถานการณ์การท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัวแล้ว เมืองพัทยาจึงเห็นควรว่าควรมีเวลาให้ธรรมชาติได้หยุดพักบ้าง”

นายกเมืองพัทยา ยังเผยถึงสาเหตุที่ไม่อนุญาตให้ผู้ประกอบการร่มเตียงทั้ง 2 ชายหาดมีวันหยุดตรงกัน เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มีทางเลือกในการใช้บริการเมื่อเดินทางเข้ามายังเมืองพัทยา

“อาจจะมีลูกค้าบางรายที่อยากนั่งร่มเตียงชายหาดจะได้มีตัวเลือกในการใช้บริการ แต่อย่างไรก็ตาม ในอนาคตเมืองพัทยาจะปรับรูปแบบการให้บริการนักท่องเที่ยวเพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยว และอาจมีการขยายเวลาให้ผู้ประกอบการได้มีเวลาขายที่ยาวขึ้นในช่วงวันหยุดนักขัตฤกษ์อีกด้วย” นายกเมืองพัทยา กล่าว

20 ตุลาคม พ.ศ. 2520 พล.ร.อ.สงัด ชลออยู่ ทำรัฐประหารซ้ำ ล้มรัฐบาลธานินทร์ กรัยวิเชียร

20 ตุลาคม พ.ศ. 2520 พลเรือเอกสงัด ชลออยู่ อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุดและหัวหน้า คณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ล้มรัฐบาลนายธานินทร์ กรัยวิเชียร

รัฐประหาร 20 ตุลาคม พ.ศ. 2520 เป็นการรัฐประหารอีกครั้งหนึ่งที่เกิดขึ้นในประเทศไทย โดยผู้ที่นำการรัฐประหาร คือ พลเรือเอกสงัด ชลออยู่ อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุดและหัวหน้า คณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ล้มรัฐบาลนายธานินทร์ กรัยวิเชียร

เหตุเนื่องจากการที่คณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินที่นำโดย พล.ร.อ.สงัด ได้ทำการรัฐประหารเมื่อปี พ.ศ. 2519 เนื่องจากในเหตุการณ์ 6 ตุลา และแต่งตั้ง นายธานินทร์ กรัยวิเชียร เป็นนายกรัฐมนตรี โดยรัฐบาลนายธานินทร์มีภารกิจสำคัญที่จะต้องกระทำคือ การปฏิรูปการเมืองภายในระยะเวลา 12 ปี ซึ่งทางคณะปฏิรูปฯเห็นว่าล่าช้าเกินไป ประกอบกับสถานการณ์ต่าง ๆ ในประเทศยังไม่สงบดีด้วย ดังนั้นจึงกระทำการรัฐประหารซ้ำอีกครั้ง ซึ่งอาจเรียกว่าเป็นการ รัฐประหารตัวเอง เพื่อกระชับอำนาจก็ว่าได้

โดยมีประกาศในการรัฐประหารไว้ดังนี้ การบริหารงานของรัฐบาล นายธานินทร์ กรัยวิเชียร ไม่อาจแก้ปัญหาสำคัญของประเทศทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และอุตสาหกรรม ให้ลุล่วงไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งการปิดกั้นเสรีภาพทางความคิดเห็นของประชาชน ตลอดจนท่าทีของรัฐบาลในการลอบวางระเบิดใกล้พลับพลาที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่จังหวัดยะลา


TRENDING
© Copyright 2022, All rights reserved. Eec Time Thailand
Take Me Top