Tuesday, 30 April 2024
Eec Time Team

กรมทะเลฯ พบโรคแถบสีเหลือง ลุกลามปะการัง หมู่เกาะสัตหีบ-แสมสาร

กรมทะเลฯ พบโรคแถบสีเหลือง ระบาดปะการัง หมู่เกาะสัตหีบ-แสมสาร จ.ชลบุรี ‘อธิบดี ทช.’ สั่งเร่งคัดแยกปะการังที่เป็นโรคออก หยุดยั้งการตายของปะการังเพิ่ม

เมื่อวันที่ (27 ต.ค. 65) นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนบนฝั่งตะวันออก ได้สำรวจแนวปะการังบริเวณหมู่เกาะสัตหีบ-แสมสาร จ.ชลบุรี จากการสำรวจเบื้องต้นพบการระบาดของโรคแถบสีเหลือง ซึ่งโรคแถบสีเหลืองนั้นมีอัตราการลุกลาม ประมาณ 1-6 ซ.ม./สัปดาห์ ในปะการังเขากวาง และ 1 ซ.ม./เดือน ในปะการังโขด และหากพบว่าส่วนใดของปะการังเป็นโรคแล้วนั้น ปะการังส่วนนั้นจะตาย


ที่มา : https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_7335452

สโมสรชลบุรีเอฟซี ประกาศยกเลิกสัญญา 'วรวุฒิ สุขุนา' จากเหตุเมาแล้วขับ โดยให้มีผลทันที

ประธาน​สโมสรฟุตบอลชลบุรี เอฟซี ประกาศยกเลิกสัญญาว่าจ้าง "วรวุฒิ สุขุนา" ผู้รักษาประตูสโมสร แสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยและยอมรับไม่ได้ต่อการกระทำหลังเหตุการณ์​เมาแล้วขับรถชนคนตาย โดยให้มีผลทันที

จาก​เหตุการณ์ที่ นายวรวุฒิ สุขุนา ผู้รักษาประตูวัย 23 ปี ทีมชลบุรี เอฟซี ขับรถชนคนจนเสียชีวิต 1 ราย และได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 1 ราย ที่สะพานใหม่เลียบชายทะเล จ.ชลบุรี (ตอนที่ 2)​ เมื่อเช้าตรู่วันที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมา และจากการตรวจวัดค่าแอลกอฮอล์ในเลือดพบสูงถึง 184 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด

การสอบสวนของเจ้าหน้าที่ที่มีการตั้งข้อหา นายวรวุฒิ สุขุนา “ขับขี่รถในขณะเมาสุราเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและบาดเจ็บสาหัส” และจากพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุถึงแม้จะมีการขอประกันตัวเพื่อไปให้การในชั้นศาล 

ขณะที่ "บิ๊กบอล" ศศิศ สิงห์โตทอง ผู้จัดการทีมฉลามชล ชลบุรี เอฟซี ต้องออกมาอัดคลิปแถลงผ่านเพจเฟซบุ๊กของสโมสรฯฝเพื่ออธิบายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนจะประกาศลาออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมอย่างเป็นทางการนั้น

ช่วงเช้าวันนี้ (27 ต.ค.)​ นายวิทยา คุณ​ปลื้ม​ นายก​องค์​การบริหาร​องค์การ​ส่วนจังหวัดชลบุรี​ ในฐานะประธาน​สโมสรฟุตบอลชลบุรี เอฟซี ได้ออกมาให้สัมภาษณ​์ต่อสื่อมวลชน ว่า หลังจากที่ได้หารือเพิ่มเติมกับทีมผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจนได้ข้อสรุปเพิ่มเติมจากแถลงการณ์ฉบับแรกของสโมสรที่ว่า จะไม่ส่งนายวรวุฒิ สุขุนา ลงสนามในการแข่งขันฟุตบอลไทยลีก จนกว่าคดีจะสิ้นสุดและได้รับโทษตามกฎหมายนั้น

ล่าสุด สโมสรได้มีการพิจารณาบทลงโทษใหม่ โดยมีมติที่จะทำการ “ยกเลิกสัญญา” นายวรวุฒิ สุขุนา และจะมีผลในทันที

INFLUENCER TRIP BY PTT ก้าวผ่าน…สู่อนาคต

#บทพิสูจน์ความตั้งใจในการขยายระบบนิเวศEV
#ขับเคลื่อนทุกวิถีชีวิตด้วยพลังงานแห่งอนาคต

ถือเป็นอีกภารกิจใหญ่ของ ปตท. ในการเป็นอีกส่วนสำคัญเพื่อช่วยขับเคลื่อนประเทศ ด้วยการก้าวสู่เส้นทางธุรกิจแห่งอนาคตอย่าง ธุรกิจด้านพลังงานทางเลือกใหม่ เพื่อแก้ปัญหามลภาวะ และให้ความสำคัญกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero GHG Emissions) โดยล่าสุดได้มีการตอกย้ำความชัดเจนนี้อีกครั้ง ผ่านงาน INFLUENCER TRIP BY PTT ก้าวผ่าน…สู่อนาคต ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2565 ณ ปตท. สำนักงานใหญ่ ซึ่งงานนี้พร้อมเพรียงไปด้วยเหล่าบรรดา INFLUENCER มากมาย พร้อมบรรดาสื่อหลากแขนง ที่มารวมตัวพบปะภายในงาน เพื่อพูดคุยและนำพาสังคมไทยก้าวผ่านไปสู่อนาคตอันยิ่งใหญ่

ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมา กลุ่ม ปตท. ให้ความสำคัญกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero GHG Emissions) อย่างมาก จึงเน้นให้มีการดำเนินธุรกิจด้วยการบริหารจัดการอย่างยั่งยืน ตามเทรนด์หลักที่สำคัญของโลก 2 ด้าน คือ Go Green และ Go Electic ภายใต้วิสัยทัศน์ 'Poweiing Life with Future Energy and Beyond ขับเคลื่อนทุกชีวิตด้วยพลังแห่งอนาคต' 

โดยมุ่งสู่ธุรกิจพลังงานหมุนเวียน ไฟฟ้าและยานยนต์ไฟฟ้าครบวงจร รวมถึงต่อยอดนวัตกรรมและแสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ที่ไกลกว่าพลังงาน เพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตของประชาชน

ทั้งนี้ หากหันมามองด้านธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าที่กำลังได้รับความสนใจในระดับสากลนั้น กลุ่ม ปตท. เล็งเห็นแนวโน้มการใช้งานที่ขยายตัวเพิ่มมากขึ้นทั้งในประเทศและภูมิภาค จึงมุ่งวางรากฐานขยายธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าครบวงจร (EV Value Chain) ให้ครอบคลุมในทุกมิติ เพื่อสร้างระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าที่สมบูรณ์ให้กับประเทศไทย รวมไปถึงโครงสร้างพื้นฐาน และการให้บริการแบบครบวงจรของยานยนต์ไฟฟ้า สนับสนุนให้คนไทยใช้พลังงานสะอาด เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Society) บรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี 2050 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero GHG Emissions) ในปี 2065

นั่นจึงทำให้ ปตท. จัดตั้ง บริษัท อรุณ พลัส จำกัด (ARUN PLUS) ขึ้น เพื่อรองรับการขยายฐานธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า และเป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนการพัฒนา EV Ecosystem ทั้งของ ปตท. และของประเทศไทยให้ครบวงจร อีกทั้งทำหน้าที่ประสานการลงทุนกับบริษัทในกลุ่ม ปตท. ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ รวมถึงร่วมลงทุนกับพันธมิตรชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ อันจะช่วยสนับสนุนให้เกิดการใช้ EV อย่างแพร่หลายในประเทศไทย พร้อมทั้งขับเคลื่อนไทยให้เป็นฐานการผลิต EV

ขณะที่ บริษัท ฮอริษอน พลัส จำกัด (HORIZON PLUS) บริษัทร่วมทุนระหว่าง อรุณ พลัส และ บริษัท หลินยิ่ง อินเตอร์เนชั่นแนล อินเวสเมนท์ (Foxconn Technology Group) ที่ได้มีการจดทะเบียนก่อตั้งบริษัท JV ARUN PLUS ถือหุ้น 60% Foxconn 40% เกิดขึ้นเพื่อดำเนินธุรกิจผลิตและประกอบรถยนต์ครบวงจรรูปแบบใหม่ด้วยเทคโนโลยี MIH Platform หรือ Open EV Platforn ซึ่งเป็นโครงช่วงล่างของตัวรถยนต์ไฟฟ้าที่มีความยืดหยุ่นสูง สามารถปรับแต่งให้เข้ากับรถยนต์ได้หลายประเภท สามารถช่วยแบรนด์รถยนต์ลดค่าใช้จ่าย, ลดระยะเวลาในการพัฒนา และผลิตรถยนต์แต่ละรุ่นออกมาในราคาที่จับต้องได้ ซึ่งโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของ HORIZON PLUS นี้ จะตั้งบนพื้นที่ 313 ไร่ ในสวนอุตสาหกรรมโรจนะ อำเภอหนองใหญ่ จังหวัด ชลบุรี เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) (คาดว่าแล้วเสร็จในปี 2024) เฟสแรกจะดำเนินการด้วยงบลงทุนประมาณ 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สำหรับการก่อสร้างโรงงานคาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมผลิต EV สู่ตลาดภายในปี 2567 ในระยะแรกมีกำลังการผลิตที่ 50,000 คัน/ 

ต่อมากับ 'ออน-ไอออน' (on-ion) ผู้ให้บริการธุรกิจสถานีอัดประจุสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า (EV Charging Station) ภายใต้ บริษัท อรุณ พลัส จำกัด โดยมุ่งขยายเครือข่ายไปยังพื้นที่ทำเลศักยภาพ อาทิ ศูนย์การค้า, โรงแรม, อาคารสำนักงาน, ร้านอาหาร เป็นต้น และจะให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดยานยนต์ไฟฟ้า ด้วยเครื่องอัดประจุไฟฟ้าชนิดกระแสสลับ (AC Charger) รองรับรถยนต์ปลั๊ก- อิน ไฮบริด (Plug in Hybrid) และรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (BEV Battery Electic Vehicle) ทุกรุ่น ทุกแบรนด์ที่มีหัวชาร์จ Type 2 โดยใช้งานผ่าน on-ion Mobile Application รองรับทั้งระบบ Android และ IOS ในการค้นหาสถานี ซึ่งปัจจุบัน on ion EV Charging Station เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้วที่...

อัปเดตราคา 'หมู-เนื้อ-ไก่'

อัปเดตราคาอาหารสดวันนี้ มาดูกันว่าตามท้องตลาด ราคาอาหารสด ประจำวันที่ 27 ตุลาคม 2565 จะเพิ่มขึ้นหรือลดลงแค่ไหน ไม่ว่าจะเป็น ราคาหมู ราคาไก่ ราคาไข่ไก่ รวมไปถึงราคาผักสด เช็กกันเลย..

27 ตุลาคม พ.ศ. 2477 ไทยประกาศเลิกใช้ เงินพดด้วงทุกชนิด เหตุเศรษฐกิจขยายตัวผลิตเงินพดด้วงไม่ทัน

27 ตุลาคม พ.ศ. 2447 ประกาศเลิกใช้ เงินพดด้วง ทุกชนิด เนื่องจากความต้องการเงินตราไทยมีมากเพราะการค้าระหว่างประเทศขยายตัว การผลิตเงินพดด้วงไม่ทันใช้ 

ในหลวง รัชกาลที่ 5 จึงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เสนาบดีกระทรวงพระคลังมหาสมบัติ ออกประกาศลงวันที่ 27 ตุลาคม 2447 มีความสำคัญว่า ได้โปรดให้สั่งว่า เงินพดด้วงซึ่งได้จำหน่ายออกจากพระคลังฯ ใช้กันแพร่หลายอยู่ในพระราชอาณาจักรเวลานี้ มีลักษณะปลอมแปลงได้ง่าย สมควรให้เลิกใช้เงินพดด้วงเสีย โดยตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม 2447 เป็นต้นไป ให้เลิกใช้เงินพดด้วงทุกชนิด ยกเป็นเงินตราที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

สำหรับ เงินพดด้วง ทางราชอาณาจักรสุโขทัย ล้านนา กรุงศรีอยุธยา ได้ผลิตคิดค้นเงินตราขึ้นใช้ในระบบเศรษฐกิจ พร้อมกันนั้นก็ยอมรับเงินตราของต่างชาติด้วย เงินตราที่ใช้ในอาณาจักรล้านนา ได้แก่ เงินไซซี เงินกำไล เงินเจียง เงินท้อก เงินดอกไม้ ส่วนราชอาณาจักรสุโขทัยและอยุธยาได้ผลิตเงินพดด้วง ซึ่งมีลักษณะเฉพาะของตนเองขึ้นใช้ และใช้เบี้ยหอยแทนเงินปลีกย่อย บางครั้งเบี้ยหอยขาดแคลนก็ได้ผลิตเบี้ยโลหะและประกับดินเผาขึ้นใช้ร่วมด้วย

ภายหลังราชอาณาจักรกรุงศรีอยุธยาสลายลง กรุงธนบุรีและรัตนโกสินทร์ถือกำเนิดขึ้นตามลำดับ ก็ยังคงใช้เงินพดด้วงเช่นครั้งกรุงศรีอยุธยา จนกระทั่งถึงรัชกาลที่ 4 การเปิดประเทศสยามสู่อารยประเทศ มีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบเงินตราให้เป็นสากล นำไปสู่การผลิตเงินตราในลักษณะเหรียญกลมแบนออกใช้เป็นครั้งแรก ต่อมารัชกาลที่ 5 จึงทรงประกาศยกเลิกการใช้เงินพดด้วง นับตั้งแต่นั้นเงินตราไทยจึงคงเป็นลักษณะเป็นเหรียญกลมแบนต่อเนื่องมาจนถึง ปัจจุบัน

28 ตุลาคม พ.ศ.2539 สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 และเจ้าชายฟิลิป เสด็จเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ

วันนี้ เมื่อ 26 ปีที่แล้ว สมเด็จพระบรมราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร และเจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบะระ พระราชสวามี เสด็จเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานพระราชอาคันตุกะ ในหลวง รัชกาลที่ 9

วันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ.2539 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ให้การถวายเลี้ยงพระกระยาหารค่ำแด่สมเด็จพระบรมราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร และเจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบะระ พระราชสวามี เสด็จเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะพระราชอาคันตุกะ ในระหว่างวันที่ 28 ตุลาคม - 1 พฤศจิกายน พ.ศ.2539 เนื่องในโอกาสปีกาญจนาภิเษก ฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี ของในหลวง รัชกาลที่ 9 ซึ่งถือเป็นพระมหากษัตริย์ที่ครองราชสมบัติเป็นระยะเวลายาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย

ทำไมไทยต้องนำเข้าน้ำมัน? ทั้งที่ผลิตน้ำมันได้

รู้ไหม? ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ผลิตน้ำมัน แล้วไม่พอต่อการใช้งานของคนในประเทศ

ราคาน้ำมันที่มีการผันผวนตลอดเวลา ไม่ว่าจะเนื่องด้วยเหตุผลใดก็ตาม ย่อมส่งผลต่อความไม่พอใจของประชาชนมาตลอด และเมื่อไม่พึงพอใจก็จะเกิดการเปรียบเทียบ ในวิกฤติราคาน้ำมันทุก ๆ ครั้ง ดังที่จะเห็นจนคุ้นตา คือการที่มักมีบางกลุ่ม เปรียบเทียบราคาพลังงานไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะมาเลเซีย

เมื่อไม่นานมานี้ ก็มีกรณีผู้มีชื่อเสียงคนหนึ่ง ที่ลงทุนเดินทางไปถึงมาเลเซียเพื่อเติมน้ำมันที่นั่น ก่อนจะเปรียบเทียบราคาน้ำมันของไทยกับมาเลเซียลงสื่อโซเชียล ส่งผลให้รัฐบาลมาเลเซียสั่งการให้มีการตรวจสอบผู้มาขอรับบริการว่าเป็นพลเมืองมาเลเซียหรือไม่ เนื่องจากราคาน้ำมันของมาเลเซีย ได้รับการชดเชยราคาโดยตรงด้วยภาษีของคนมาเลเซีย

แต่หากมองย้อนกลับไปที่ประเทศลาว จะเห็นว่าประเทศลาวนั้น มีราคาน้ำมันที่สูงกว่าไทยตลอด เนื่องจากว่าลาวนั้น ไม่มีแหล่งเชื้อเพลิงของตนเอง ราคาน้ำมันในลาว จึงเป็นราคาที่เพิ่มค่าใช้จ่ายในการขนส่งจากประเทศไทยเข้าไปร่วมด้วย เป็นสาเหตุให้มีราคาที่สูงกว่าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้นั่นเอง

นั่นทำให้คนลาวบางส่วน เข้ามาเติมน้ำมันในประเทศไทย และประเทศไทยก็สั่งห้ามเช่นเดียวกับมาเลเซีย

หันกลับมาพิจารณาถึงที่มาของราคาน้ำมัน ประเทศที่มีความสามารถในการขุดเจาะน้ำมันได้เอง และกลั่นน้ำมันได้เอง จะมีราคาน้ำมันสำหรับการใช้ในประเทศที่มีราคาถูกลงมากกว่าประเทศที่ต้องนำเข้าพลังงานทั้งหมด

แต่จะถูกมากน้อยเท่าไรนั้น ขึ้นอยู่กับว่า ประเทศนั้น ๆ มีปริมาณน้ำมันสำรอง และกำลังการผลิตมากเพียงพอที่จะตอบสนองของคนทั้งประเทศหรือไม่

จากข้อมูลของ Worldometer ระบุว่า ใน พ.ศ. 2559 มาเลเซียมีปริมาณน้ำมันสำรอง 3,600,000,000 บาร์เรล มากเป็นอันดับที่ 28 ของโลก ในขณะที่ประเทศไทยมีเพียง 404,890,000 บาร์เรล อยู่อันดับที่ 50 อีกทั้งมีปริมาณน้อยกว่ามาเลเซียถึง 8.9 เท่า

นอกจากนี้ กำลังการผลิตของมาเลเซียนั้น เพียงพอต่อการบริโภคในประเทศ สำหรับประชากรเพียงแค่ 32 ล้านคน มีน้ำมันเหลือใช้มากถึงวันละ 54,168 บาร์เรลต่อวัน ในขณะที่ไทย ทั้ง ๆ ที่ผลิตได้น้อยกว่า แต่กลับมีอัตราการบริโภคที่สูงกว่า จนทำให้กำลังการผลิตต่อวัน น้อยกว่าอัตราการบริโภคมากถึง 770,671 บาร์เรลต่อวันเลยทีเดียว

แต่ถึงแม้มาเลเซียจะมีกำลังการผลิตน้ำมันที่ล้นเหลือ แต่มาเลเซียก็ยังมีการนำเข้าน้ำมันมากถึง 197,489 บาร์เรลต่อวัน และส่งออกน้ำมัน 390,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งนี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ราคาน้ำมันในมาเลเซียเองก็ผันผวนตามราคาน้ำมันของโลกด้วยเหมือนกัน เพียงแต่ไม่ส่งผลกระทบมากเท่ากับประเทศไทยนั่นเอง

จากรายงานของ Worldometer ระบุว่า มาเลเซียมีน้ำมันสำรอง 0.2% เมื่อเทียบกับปริมาณน้ำมันสำรองของโลก (1,650,585,140,000 บาร์เรล อ้างอิงข้อมูล พ.ศ. 2559) ในขณะที่ประเทศไทย มีปริมาณน้ำมันสำรองเพียง 0.02345% เพียงเท่านั้น

การที่จะนำประเทศไทยไปเปรียบเทียบกับมาเลเซีย ในเรื่องราคาน้ำมัน และความพยายามที่จะผลักดันให้ประเทศไทย ดำเนินนโยบายราคาน้ำมันแบบมาเลเซียนั้น จึงไม่ต่างอะไรกับการขี่ช้างจับตั๊กแตนเลย

การดำเนินนโยบายการบริหารราคาและกำลังการผลิตน้ำมันของประเทศอย่างเหมาะสม เป็นเรื่องที่สำคัญมากกว่าการกดราคาน้ำมันเพียงอย่างเดียว

ตัวอย่างที่ชัดเจนคือประเทศเวเนซุเอลา ซึ่งเป็นประเทศที่มีน้ำมันสำรองมากที่สุดในโลกถึง 299,953,000,000 บาร์เรล ซึ่งมากกว่ามาเลเซียถึง 83 เท่า แต่เนื่องด้วยรัฐบาลเวเนซุเอลาเลือกที่จะผูกขาดการผลิตน้ำมันของประเทศเอาไว้กับรัฐวิสาหกิจเพียงรายเดียว เพื่อส่งเสริมนโยบายประชานิยมของรัฐบาล ทำให้โครงสร้างทางเศรษฐกิจของเวเนซุเอลาอ่อนแอ จนเป็นเหตุให้เศรษฐกิจของประเทศพังทลายลง ในเวลาต่อมา

เช็กเลย!! พิกัดสถานที่ 'บำบัด-รักษา' ผู้ติดยาเสพติด ปรึกษาผ่าน LINE @1165huangyai ตลอด 24 ชม.

เมื่อวันที่ (26 ต.ค. 65) น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากกรณีการก่อเหตุความรุนแรง ส่งผลให้มีทั้งผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต โดยหลายกรณีผู้ก่อเหตุมีการใช้สารเสพติด รัฐบาลให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการแก้ไขปัญหาจะต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และประชาชนทุกคนในสังคม หากมีบุคคลในครอบครัวเป็นผู้ติดสารเสพติด หรือคนใกล้ชิดเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ขอให้เร่งเข้าสู่กระบวนการบำบัดโดยด่วน 

ทั้งนี้ หากปล่อยให้มีการเสพยาเป็นระยะเวลานาน จะเป็นต้นเหตุของการกระทำความรุนแรงต่าง ๆ เนื่องจากยาเสพติดมีผลให้สมองถูกทำลาย ความสามารถในการคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผลลดลง มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม เช่น ก้าวร้าว หงุดหงิด เกิดอาการทางจิตประสาท ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เป็นสาเหตุของการก่อความรุนแรง และนำไปสู่การก่อเหตุสลดในสังคมซ้ำ ๆ ได้

นักฟุตบอลทีมดัง 'ชลบุรีเอฟซี' เมาขับเก๋งหลุดโค้งชนคนตาย 1 สาหัส 1

นักฟุตบอลทีมดัง 'ชลบุรีเอฟซี' เมาขับเก๋งหลุดโค้งพุ่งชนคนเดินออกกำลังกายบนสะพานใหม่เลียบชายทะเลชลบุรีดับ 1 สาหัส 1 ขณะเพื่อนนักบอลตามหาวุ่น ซ้ำยังแสดงพฤติกรรม​เมากร่าง หวิดวางมวยตำรวจ และ​กู้ภัย

ผู้​สื่อข่าว​รายงานว่า เมื่อเวลา 04.30 น.วันนี้ (26 ต.ค.)​ ได้เกิดเหตุรถยนต์ชนคนเดินออกกำลังกายบนสะพานใหม่เลียบชายทะเล (ชลมารค​วิถี)​ ตอน 2 ต.บ้านโขด อ.เมือง จ.ชลบุรี จนผู้เสียชีวิต ซึ่งหลังเกิดเหตุ ร.ต.ท.นนทนันท์ นวนงาม รอง สารวัตร (สอบสวน ) สภ.เมืองชลบุรี ได้ประสานเจ้าหน้าที่​กู้ภัยไตรคุณธรรมชลบุรี ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบ

ในที่เกิดเหตุพบศพ น.ส.กัญญา พงษ์หัสส์บรรณ อายุ 62 ปี สภาพสวมชุดออกกำลังกาย ขาขวาหัก ศีรษะแตก และยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีกรายคือ นายพงษ์ (ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง) สภาพขาขวาหัก เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำส่งโรงพยาบาลชลบุรี 

ห่างออกไปประมาณ 20 เมตร พบรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า วีออส สีดำ หมายเลขทะเบียน กจ 8061 มหาสารคาม สภาพด้านหน้ามีรอยชน ส่วนด้านท้ายรถพังยับเยิน และมีนายวรวุฒิ สุขุนา อายุ 23 ปี หรือแบงค์ ผู้รักษาประตูทีมฟุตบอลชลบุรีเอฟซี ซึ่งเป็นคนขับและอยู่ในสภาพคล้ายคนเมาสุรา

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการตรวจวัดแอลกอฮอล์ พบว่า มีปริมาณ​มากถึง 184 มิลลิกรัม​เปอร์เซ็นต์​ แต่นักกีฬา​รายดังกล่าวยังไม่ยอมเซ็นรับทราบ

จากการสอบถาม นายเสวต จีวัชรินทร์ ผู้ที่เดินออกกำลังกายบริเวณ​ดังกล่าวและเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ทราบว่า รถยนต์เก๋งคันก่อเหตุได้ขับมาด้วยความเร็วสูงจากนั้นจึงได้ยินเสียงดังโครม ก่อนที่รถยนต์​จะหมุนเฉี่ยวชนฟุตปาธจนไฟแตกกระจาย ตนเองจึงเอียงตัวหลบข้างสะพาน

'บิ๊กพลังงาน' ผนึก TCNN พาไทยสู่ Net Zero ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์

กลุ่ม ปตท. ผนึกกำลังเครือข่ายคาร์บอนนิวทรัลประเทศไทย (TCNN) ยกระดับลดก๊าซเรือนกระจก พร้อมขับเคลื่อนประเทศมุ่งสู่ Net Zero 

ไม่นานมานี้ นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานเครือข่ายคาร์บอนนิวทรัลประเทศไทย (Thailand Carbon Neutral Network หรือ TCNN) ได้เป็นประธานการประชุมคณะผู้บริหารกรรมการเครือข่ายฯ (Council Board) ประจำปี 2565 

โดยในงานนี้มี นายเกียรติชาย ไมตรีวงษ์ ผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน), นายเทอดเกียรติ พร้อมมูล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลยุทธ์องค์กรและความยั่งยืน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกรรมการเครือข่ายฯ และผู้บริหารกลุ่ม ปตท. เข้าร่วมการประชุม เพื่อสรุปผลความสำเร็จของการดำเนินงานที่ผ่านมา 

นอกจากนี้ ทางคณะกรรมการฯ ยังได้หารือถึงแผนการดำเนินงานให้สอดรับกับวิสัยทัศน์ของ TCNN ในการเป็น ‘เครือข่ายแกนนำของประเทศไทยสู่การบรรลุเป้าหมาย Carbon Neutrality และ Net Zero’ อีกด้วย


TRENDING
© Copyright 2022, All rights reserved. Eec Time Thailand
Take Me Top