Thursday, 16 May 2024
อีอีซีไทม์

ปตท. ผนึกกำลัง นูออโว พลัส ลงนามข้อตกลงความร่วมมือ โครงการ Battery Technology for All

ปตท. ผนึกกำลัง นูออโว พลัส ลงนามข้อตกลงความร่วมมือ โครงการ Battery Technology for All พัฒนาเทคโนโลยีด้านแบตเตอรี่ มุ่งสู่ Net Zero

เมื่อไม่นานมานี้ นายเชิดชัย บุญชูช่วย รองกรรมการผู้จัดการใหญ่นวัตกรรมและธุรกิจใหม่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เป็นประธานในพิธีลงนามข้อตกลงความร่วมมือ โครงการ Battery Technology for All

ซึ่งเป็นการลงนามระหว่าง ดร.ยุทธนา สุวรรณโชติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สถาบันนวัตกรรม บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ นายทิติพงษ์ จุลพรศิริดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) ในฐานะ กรรมการ บริษัท นูออโว พลัส จำกัด เพื่อร่วมมือกันในการดำเนินการศึกษาและพัฒนาโครงการ รวมถึงแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีด้านแบตเตอรี่

การผนึกกำลังของ ปตท. และ นูออโว พลัส ในครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนการพัฒนาประเทศ ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมให้มั่นคงอย่างยั่งยืน ผ่านการดำเนินการในโครงการจัดตั้งศูนย์ทดสอบแบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า และพัฒนาแบตเตอรี่ต้นแบบสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก อีกทั้งยังเป็นการประสานความร่วมมือเพื่อแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

โดยมีเจตจำนงในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) และสนับสนุนหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) สอดคล้องตามเป้าหมายของกลุ่ม ปตท. เพื่อเป็นพลังขับเคลื่อนการพัฒนานวัตกรรมพลังงานยั่งยืน ที่พร้อมพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย ควบคู่ไปกับการส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ชุมชนและสังคมในอนาคต
 

ปตท. ติดอันดับมูลค่าแบรนด์องค์กรสูงสุด และเป็นแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่งสูงสุดอันดับที่ 24 ของโลก

 

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปตท. ได้รับการจัดอันดับเป็นหนึ่งใน 500 แบรนด์แรกของโลกที่มีมูลค่าสูงสุดกว่าหนึ่งพันล้านดอลลาร์สหรัฐ และเป็นแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่งสูงสุดอันดับที่ 24 ของโลก จากการประเมินของ Brand Finance Global บริษัทที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์และการประเมินมูลค่าแบรนด์ชั้นนำของโลก ตอกย้ำศักยภาพการขับเคลื่อนองค์กรในทุกมิติ

 

Brand Finance Global ได้ประเมิน ปตท. จากการเติบโตของผลการดำเนินงานที่ดีมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ ธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น ธุรกิจน้ำมัน รวมถึงการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อการส่งเสริมและฟื้นฟูการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ผลของการดำเนินงานที่เด่นชัดดังกล่าว ส่งผลให้เกิดมูลค่าแบรนด์ที่แข็งแกร่งทัดเทียมแบรนด์ในระดับสากล

 

Mr. Alex Haigh, Managing Director - Asia Pacific of Brand Finance กล่าวว่า อุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซธรรมชาติได้เข้าสู่ช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงไปเป็นการใช้พลังงานทดแทนในไม่กี่ปีที่ผ่านมาเนื่องจากผลกระทบของโรคระบาดและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างประเทศ ปตท. ซึ่งเป็นบริษัทผู้นำด้านพลังงานเห็นถึงความสำคัญและเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว โดยปรับกลยุทธ์สู่การดำเนินธุรกิจพลังงานครอบคลุมทุกมิติ บนพื้นฐานของการคำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน

 

นายอรรถพล กล่าวเพิ่มเติมว่า การติดอันดับองค์กรที่มีมูลค่าแบรนด์สูงสุดและเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่งสูงสุดของโลก นับเป็นความภาคภูมิใจของ ปตท. ที่แสดงให้เห็นถึงการขับเคลื่อนธุรกิจอย่างแข็งแกร่งในทุกมิติ ภายใต้วิสัยทัศน์ Powering Life with Future Energy and Beyond ขับเคลื่อนทุกชีวิต ด้วยพลังแห่งอนาคต

 

ปตท. พร้อมเป็นพลังสนับสนุนประเทศไทยให้ก้าวหน้าอย่างมั่นคง โดยมุ่งสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการดูแลสังคม ชุมชน สิ่งแวดล้อมและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน ตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน ผ่านการพัฒนาธุรกิจพลังงานแห่งอนาคตและการก้าวสู่ธุรกิจใหม่ที่ไกลกว่าพลังงาน อาทิ ธุรกิจวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิต (Life Science) ระบบปัญญาประดิษฐ์ หุ่นยนต์ และเทคโนโลยีดิจิทัล (AI & Robotics & Digitalization) เป็นต้น

 

 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เตรียมลงพื้นที่ตรวจราชการ ณ จังหวัดฉะเชิงเทรา

วันที่ 9 มี.ค.2566 - นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เตรียมลงพื้นที่ตรวจราชการ ณ จังหวัดฉะเชิงเทรา

 

ในวันศุกร์ที่ 10 มีนาคม 2566 เพื่อเป็นประธานในพิธีเปิดสวนสาธารณเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ. 2562 โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน, นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ร่วมคณะตรวจราชการ ซึ่งมีกำหนดการดังนี้

 

เวลาประมาณ 14.30 น. นายกฯ และคณะออกเดินทางจากสนามเฮลิคอปเตอร์ กรมทหารราบที่ 11 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ ไปยังจุดจอด ฮ.ช.พัน.2 รอ. ค่ายศรีโสธร ต.หน้าเมือง อ.เมืองฉะเชิงเทรา จ.ฉะเชิงเทรา โดยเฮลิคอปเตอร์

 

แล้วเดินทางไปยังวัดโสธรวารารามวรวิหาร เพื่อสักการะหลวงพ่อพระพุทธโสธร และกราบนมัสการพระราชภาวนาพิธาน เจ้าอาวาสวัดโสธรวารารามวรวิหาร

 

จากนั้น เวลาประมาณ 16.00 น. นายกฯ จะเป็นประธานในพิธีเปิดสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ. 2562 ณ สวนสาธารณเฉลิมพระเกียรติ ต.บางแก้ว อ.เมืองฉะเชิงเทรา และเยี่ยมชมนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ สินค้าของดีเมืองแปดริ้ว และผลิตภัณฑ์จากการส่งเสริมอาชีพขององค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา ก่อน จะเดินทางกลับถึงสนามเฮลิคอปเตอร์ กรมทหารราบที่ 11 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ ในเวลาประมาณ 18.30 น. ทั้งนี้ กำหนดการอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม

 

‘Mekha V’ รับรางวัล ‘Microsoft Partner of the Year 2022’ ตอกย้ำการมุ่งสู่ธุรกิจแห่งอนาคตด้วยเทคโนโลยีของกลุ่ม ปตท.

เมื่อไม่นานมานี้ ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) รับรางวัล Microsoft Partner of the Year 2022 จากนายธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ในโอกาสที่บริษัท เมฆา วี จำกัด (Mekha V) ซึ่งเป็น Flagship ด้าน AI, Robotics & Digitalization ของกลุ่ม ปตท. ได้รับรางวัลสาขา ‘Intelligent Cloud กลุ่มธุรกิจภาครัฐ ภาคการศึกษา และสาธารณสุข’ สะท้อนความสำเร็จในการพัฒนาและเติมเต็มระบบนิเวศการใช้คลาวด์ (Cloud Ecosystem) ของกลุ่ม ปตท.

 

เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านดิจิทัล และสร้างโอกาสการเติบโตไปยังธุรกิจที่ไกลกว่าการใช้เทคโนโลยีคลาวด์ ควบคู่กับการพัฒนานวัตกรรมที่หลากหลายบนดิจิทัลแพลตฟอร์มให้ตอบโจทย์ความท้าทายใหม่ ๆ ตามทิศทางกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจใหม่ของ ปตท.

 

รางวัล Partner of the Year 2022 เป็นรางวัลที่มอบให้พันธมิตรที่นำเทคโนโลยีของไมโครซอฟท์ไปสรรสร้างนวัตกรรม และพัฒนา Solution สำหรับการดำเนินธุรกิจที่หลากหลาย และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเพิ่มขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีใหม่ให้กับองค์กร สู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต

บีวายดี (BYD) ผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าชั้นนำของจีน

(ซินหัว) — บีวายดี (BYD) ผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าชั้นนำของจีน ได้จัดพิธีวางศิลาฤกษ์ของการก่อสร้างโรงงานรถยนต์บีวายดีแห่งแรกในไทย เมื่อวันศุกร์ (10 มี.ค.) ซึ่งถือเป็นก้าวล่าสุดของกลุ่มผู้ผลิตยานยนต์สัญชาติจีนในการขยับขยายธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้


รายงานระบุว่าโรงงานรถยนต์บีวายดีแห่งใหม่ตั้งอยู่ที่โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) จังหวัดระยอง จะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการผลิตและกระจายยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ในไทย รวมถึงกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน และ ภูมิภาคอื่นๆ


อนึ่ง บีวายดี ซึ่งมีบทบาทสำคัญในตลาดยานยนต์ไฟฟ้าระดับโลก เปิดเผยว่ายอดจำหน่ายสะสมของยานยนต์พลังงานใหม่บีวายดีในปี 2022 สูงเกิน 1.86 ล้านคัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 208.6 เมื่อเทียบปีต่อปี


บีวายดีกลายเป็นอีกหนึ่งแบรนด์รถยนต์สัญชาติจีน ต่อจากเอ็มจี (MG) ของเอสเอไอซี มอเตอร์ (SAIC Motor) และเกรท วอลล์ มอเตอร์ (GWM) ที่เข้ามาจัดตั้งการดำเนินงานผลิตในไทย ซึ่งมีแบรนด์รถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นครองตลาดมาอย่างยาวนาน

หลิวเสวียเหลียง ผู้จัดการทั่วไปประจำฝ่ายจัดจำหน่ายยานยนต์ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของบีวายดี ระบุว่าบีวายดีนำรถยนต์รุ่นยอดนิยมอย่าง “แอตโต3” (ATTO3) เข้ามาจำหน่ายในไทยเมื่อปี 2022 ซึ่งทำสถิติบรรลุยอดจำหน่ายเป้าหมาย 10,000 คัน ภายในระยะเวลาเพียง 42 คัน
บีวายดียังจัดพิธีส่งมอบรถยนต์รุ่นแอตโต3 คันที่ 9,999 และคันที่ 10,000 ณ วันทำพิธีวางศิลาฤกษ์ของโรงงานแห่งใหม่ที่มีกำหนดเริ่มต้นการผลิตในปี 2024 ด้วยกำลังการผลิตยานยนต์พลังงานใหม่รายปี 150,000 คัน


การลงทุนของบีวายดีในไทยยังสอดคล้องกับเป้าหมายของรัฐบาลไทย ซึ่งต้องการให้ร้อยละ 30 ของยานยนต์ที่ผลิตภายในประเทศเป็นยานยนต์ไฟฟ้าภายในปี 2030


“การที่บีวายดีตัดสินใจทำให้ไทยเป็นฐานการผลิตในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกสอดคล้องกับโมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (BCG) ของไทย และทิศทางการพัฒนาอันเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและยั่งยืนของจีน” หวังหลี่ผิง อัครราชทูตที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจและกิจการพาณิชย์ ณ สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยกล่าว


“การดำเนินการครั้งนี้ไม่เพียงสร้างโอกาสการทำงานและขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจในไทย แต่ยังส่งเสริมการบูรณาการเชิงลึกของกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่ในจีนและไทย” หวังกล่าว


ด้านคณะเจ้าหน้าที่ไทย อาทิ นฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และสุพจน์ ต่ออาจหาญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ยินดีต้อนรับบีวายดีเข้ามาดำเนินงานในไทย และเชื่อว่าการเข้ามาของบีวายดีจะกระตุ้นอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของไทย
ข้อมูลจากสถาบันยานยนต์ (TAI) และกรมการขนส่งทางบกของไทย ระบุว่ายอดจำหน่ายยานยนต์ไฟฟ้าบริสุทธิ์ในไทยเมื่อปี 2022 สูงแตะ 13,454 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 588.5 เมื่อเทียบปีต่อปี

เกวลิน หวังพิชญสุข รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด กล่าวว่าแบรนด์ยานยนต์ไฟฟ้าจำนวนมาก ทั้งจากจีน ตะวันตก และญี่ปุ่น ได้เข้าร่วมมาตรการสนับสนุนของรัฐบาลไทย ซึ่งเป็นข่าวดีของผู้ซื้อรถยนต์ที่จะมีตัวเลือกเพิ่มขึ้น และของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยที่กำลังปรับเปลี่ยนให้ทันกระแสแห่งอนาคต

นายเรืองศักดิ์ สุขเสียงศรี ทนายความ ซึ่งได้รับมอบหมายจาก นายอุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เปิดเผยความคืบหน้ากรณียื่นฟ้อง นายอัจฉริยะ

นายเรืองศักดิ์ สุขเสียงศรี ทนายความ ซึ่งได้รับมอบหมายจาก นายอุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เปิดเผยความคืบหน้ากรณียื่นฟ้อง นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ข้อหาหมิ่นประมาท และเรียกค่าเสียหายจำนวน 50 ล้านบาท ต่อศาลอาญาเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2566 ว่า

 

คดีนี้ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 10 เมษายน 2566 เวลา 09.00 น. ซึ่งทีมทนายความ ได้มีการซักซ้อมพยานและแสวงหาหลักฐานเพิ่มเติมพบว่า รูปคดีฝ่ายโจทก์มีข้อมูลเพียงพอที่จะสามารถเอาผิดจำเลยได้ โดยสามารถตัดพยานบางปากออกไปได้เพื่อความรวดเร็วในพิจารณาคดีของศาล

 

นายเรืองศักดิ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ในการไลฟ์สดของนายอัจฉริยะ บางครั้งมีการนำภาพของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข อดีต ผบ.ตร มาประกอบการอ้างอิงต่างๆนานาด้วย จึงเป็นประเด็นที่ทีมกฎหมายต้องนำสืบข้อเท็จจริงต่าง ๆ หักล้าง

 

โดยเห็นสมควรต้องนำพยานที่ถูกพาดพิง ขึ้นเบิกความต่อศาลด้วยตัวเอง เพื่อประกอบการบรรยายพฤติการณ์การกระทำผิดต่างๆของนายอัจฉริยะ ตามคำฟ้อง และคิดว่า เป็นประโยชน์ต่อตัวของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ ที่ถูกกล่าวพาดพิงด้วย ทีมกฎหมายจึงได้บรรจุชื่อ พล.ต.อ.สุวัฒน์ ไว้ในบัญชีพยาน

 

โดยที่ยังไม่ได้แจ้งให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ทราบ ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมา ทีมกฎหมายพยายามประสานงานไป แต่ก็ยังไม่สามารถติดต่อ พบปะ พูดคุย หรือแจ้งให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ ทราบได้ การดำเนินการต่อจากนี้ก็จะได้มีการประสานและชี้แจงเหตุผลความจำเป็นให้กับพยานแต่ละท่านทราบ แต่หากพยานท่านหนึ่งท่านใดไม่ประสงค์จะขึ้นเบิกความ ก็สามารถถอนรายชื่อออกไปจากบัญชีพยานได้

 

ดร.รัฐสภา ลาออก จากรองนายก อบจ.แปดริ้ว เตรียมลงสมัคร ส.ส. ฉะเชิงเทรา เขต 1 พปชร.

วันที่ 15 มีนาคม 2566 ดร.รัฐสภา นพเกตุ รองนายก อบจ.ฉะเชิงเทรา ได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็น รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา คนที่ 1 เพื่อไปลงสมัคร ส.ส. หลังได้เปิดตัวเป็นผู้สมัคร ส.ส.ฉะเชิงเทรา เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โดยหาเสียงล่วงหน้าระยะหนึ่งแล้ว

 

โดยดร.รัฐสภา นพเกตุ "รองบ่วง" ได้เข้าพบ "นายกไก่" นายกิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายก อบจ.ฉะเชิงเทรา ที่ห้องทำงาน เพื่อแจ้งความประสงค์ขอลาออกจากตำแหน่งด้วยตนเอง พร้อมทั้งขอบคุณ ที่ให้โอกาสได้มาร่วมงานรับใช้พี่น้องประชาชนใน จ.ฉะเชิงเทรา โดย นายกิตติ ได้อวยพรขอให้ ดร.รัฐสภา โชคดี และได้เป็นส.ส.ตามที่หวัง

 

สำหรับ ดร.รัฐสภา นพเกตุ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ฉะเชิงเทรา เขต1 (อ.เมือง อ.บางน้ำเปรี้ยว บางส่วน) พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เกิดที่บ้าน ต.หัวสำโรง อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ก้าวเข้าสู่เวทีการเมืองระดับชาติ มีอายุเพียง 38 ปี ด้วยแรงผลักดันของครอบครัว "เสี่ยบัง" กำนันสมบัติ นางจันทนา นพเกตุ โดยมีแรงหนุนจากนักการเมืองกลุ่ม พินิจ จารุสมบัติ พล.ต.ท.พิทักษ์ จารุสมบัติ ดร.บุญเลิศ ไพรินทร์

 

ดร.รัฐสภา เกิดมาในครอบครัวที่เป็นกำนันกันทั้งตระกูล ตั้งแต่คุณปู่ "กำนันกระจ่าง นพเกตุ" แล้วสืบทอดมายังคุณลุง "กำนันกมล นพเกตุ" และคุณพ่อของเขา กำนันสมบัติ นพเกตุ แล้วถึงตกทอดมายังตัวเขา เป็นกำนันที่อายุน้อยที่สุดในประเทศไทย ในขณะนั้นด้วยอายุเพียง 29 ปี

 

นอกจากนี้ ยังจบจาก ร.ร.สาธิต มศว.ประสานมิตร แล้วเข้าเรียนโรงเรียนนานาชาติ ISR ที่พัทยา จบปริญญาตรี นิเทศศาสตร์โฆษณา มหาวิทยาลัยรังสิต ไปต่อปริญญาโท ด้านบริหารธุรกิจ ที่มหาวิทยาลัยนอร์ทแซมเบีย นิวคาสเซิล ประเทศอังกฤษ และจบปริญญา เอก ม.เกษตรศาสตร บางเขน

 

พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อแสวงหาโอกาสในการเข้าสู่ธุรกิจ E-Truck และ E-Mobility ครบวงจร

นายเชิดชัย บุญชูช่วย รองกรรมการผู้จัดการใหญ่นวัตกรรมและธุรกิจใหม่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (กลาง) เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อแสวงหาโอกาสในการเข้าสู่ธุรกิจ E-Truck และ E-Mobility ครบวงจร และธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในประเทศไทย

 

โดยมี นายเอกชัย ยิ้มสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อรุณ พลัส จำกัด (Arun Plus) (ที่ 2 จากซ้าย) Mr. Da Rui (ดา รุย) Managing Director Southeast Asia, SANY Heavy Industry (Thailand) Co., Ltd. (SANY) (ที่ 2 จากขวา) คุณ ฉกาจ แสนจัน Chief Executive Officer, Leadway Heavy Machinery Co., Ltd. (Leadway) (ซ้ายสุด) และ Mr. Ho Howe Tian (โฮ ฮาว เทียน) Managing Director ASEAN, Rootcloud Technology Co., Ltd. (Rootcloud) (ขวาสุด) ร่วมลงนาม

 

ความร่วมมือครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหาโมเดลธุรกิจที่เหมาะสมสำหรับการผลิต ช่องทางการขาย และการจัดจำหน่าย E-Truck และเทคโนโลยี E-Mobility ในไทยและภูมิภาคอาเซียน สอดคล้องกับแผนการลงทุนในธุรกิจโลจิสติกส์ตามทิศทางของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 และกลยุทธ์ New S-Curve ของ ปตท. ในกลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์และโครงสร้างพื้นฐาน

 

ที่มุ่งเน้นการเชื่อมโยงระบบเครือข่ายขนส่งทั้งหมดของประเทศไทยและระบบขนส่งเชื่อมต่อระหว่างประเทศ อาทิ การขนส่งสินค้าทางราง ทางทะเล ทางบก และทางอากาศ E-Truck และ E-Mobility

 

จึงมีส่วนสำคัญยิ่งต่อการดำเนินธุรกิจโลจิสติกส์ ช่วยขับเคลื่อนระบบการขนส่งของไทยไปสู่การเป็นผู้ให้บริการแบบครบวงจรต่อไป

"กัมพล" ประธานบริษัทนงนุช รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ฐานะทำประโยชน์ ให้การท่องเที่ยวไทย

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาที่ ห้องประชุมจรุวัสตร์ ชั้น 10การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ กรุงเทพฯ นายกัมพล ตันสัจจา ประธานบริษัทนงนุช วิลเลจ จำกัด เข้ารับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ชั้นจตุตถดิเรกคุณาภรณ์ ผู้ทำคุณประโยชน์ให้กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว

 

ทั้งนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชเครื่องราชอิสริยาภรณ์ อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 139 ตอนพิเศษ 2 ข เนื่องจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้แจ้งให้ ส่วนราชการและหน่วยงานต่างๆ จัดพิธีรับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ ในสถานที่ที่เหมาะสม เพื่อเป็นการถวายพระเกียรติตามขั้นตอนการปฏิบัติของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้ดำเนินการประกาศรายชื่อผู้ที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ประจำปี 2564 ให้แก่บุคคลภายนอกผู้ทำคุณประโยชน์ให้กับอุตสาหกรรม ท่องเที่ยวเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

 

ที่มา : สยามโฟกัสไทม์

โครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาด้านพลาสมาและเทคโนโลยีฟิวชัน ระหว่าง ปตท. และ สทน.

ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) (ซ้าย) และ ดร.หาญณรงค์ ฉ่ำทรัพย์ รองผู้อำนวยการ สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สทน.) (ขวา) ได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือโครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาด้านพลาสมาและเทคโนโลยีฟิวชัน ระหว่าง ปตท. และ สทน.

 

โดยมีผู้บริหารของทั้งสองฝ่ายร่วมเป็นสักขีพยาน การผนึกกำลังของ ปตท. และ สทน. ในครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อร่วมมือกันในด้านการวิจัยและพัฒนาพลาสมา เทคโนโลยีฟิวชัน และห้องปฏิบัติการขั้นสูง

 

โดยมุ่งเน้นให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในการวิจัยและพัฒนาด้านพลาสมาและเทคโนโลยีฟิวชันในอาเซียนภายในปี พ.ศ. 2570 รวมทั้งแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ในด้านงานวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี ระหว่าง ปตท. และ สทน.

 

ทั้งนี้ ความร่วมมือในครั้งนี้ยังสอดรับกับเป้าหมายของกลุ่ม ปตท. ที่มุ่งมั่นแสวงหาเทคโนโลยีใหม่ที่มีศักยภาพในการบรรลุเป้าหมายการเข้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero)

 

เพื่อเป็นพลังขับเคลื่อนในการพัฒนานวัตกรรมพลังงานยั่งยืน ที่พร้อมพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย ควบคู่ไปกับการส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ชุมชนและสังคมต่อไป

 


TRENDING
© Copyright 2022, All rights reserved. Eec Time Thailand
Take Me Top