Monday, 29 April 2024
อีอีซีไทม์

สำรวจการใช้งาน ‘คอมพิวเตอร์ - มือถือ - อินเตอร์เน็ต’ ประเทศไทยไตรมาส 1/65

คนไทย ‘มีใช้’ กันมากน้อยแค่ไหน?

ผลการสำรวจจาก 27.4 ล้านครัวเรือน 
- มีคอมพิวเตอร์ 6.3 ล้านครัวเรือน คิดเป็น 25.5%
- มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต 22.0 ล้านครัวเรือน คิดเป็น 89.1%
- มีโทรศัพท์มือถือ 23.9 ล้านครัวเรือน คิดเป็น 96.6%
 

ตัวแทนเครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า ตอบโต้กรณีแพทย์อ้างบุหรี่ไฟฟ้าพุ่งเป้าเยาวชน ชี้ต้องเร่งเอากฎหมายมาควบคุมแทนการแบน

เครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าทักท้วง หลังเครือข่ายแพทย์อ้างบุหรี่ไฟฟ้าพุ่งเป้าเยาวชน ย้ำชัดไม่สนับสนุนให้เด็กใช้บุหรี่ไฟฟ้า แต่การแบนยิ่งทำให้บุหรี่ไฟฟ้าหาซื้อได้ง่ายโดยไม่มีการควบคุม จี้หยุดกลบความล้มเหลวของมาตรการแบนด้วยการเผยแพร่งานวิจัยที่ยังมีช่องโหว่ แต่ควรปลดล๊อคบุหรี่ไฟฟ้าแล้วใช้กฎหมายมาควบคุม

นายอาสา ศาลิคุปต ตัวแทนเครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า กลุ่มลาขาดควันยาสูบ (ECST) ให้ข้อมูลตอบโต้กรณีงานเสวนาของเครือข่ายที่ต่อต้านบุหรี่ไฟฟ้าซึ่งให้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงว่า...“ก่อนหน้านี้ เครือข่ายแพทย์ก็เคยอ้างถึงผลวิจัยว่าเยาวชนที่สูบบุหรี่ไฟฟ้ามีแนวโน้มจะสูบบุหรี่ธรรมดาเพิ่มขึ้น และกล่าวอ้างถึง Gateway Effects นั้น หากลองมาเปิดงานวิจัยอ่านดูดีๆจะเห็นเลยว่ามีช่องโหว่เยอะมาก ตั้งแต่จำนวนกลุ่มตัวอย่างจนถึงขั้นตอนวิจัย อีกทั้งผลวิจัยดังกล่าวก็ช่วยยืนยันว่าการแบนยิ่งทำให้เด็กเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าใต้ดินได้โดยไร้กฎหมายควบคุม
 

4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2532 'พายุไต้ฝุ่นเกย์' พัดถล่มภาคใต้ตอนบนของไทย หายนะครั้งใหญ่ที่คร่าชีวิตคนไทยเกือบ 500 คน

วันนี้ เมื่อ 33 ปีก่อน  'พายุไต้ฝุ่นเกย์' พัดถล่มภาคใต้ตอนบนฝั่งอ่าวไทย ด้วยความเร็ว 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สร้างความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินอย่างมหาศาล

ช่วงเช้าของวันที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2532 เวลาประมาณ 08.30 น. พายุไต้ฝุ่นเกย์ได้เคลื่อนเข้าสู่ภาคใต้ตอนบนของประเทศไทย ฝั่งอ่าวไทยด้วยความเร็วถึง 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (ก.ม./ชม.) เป็นความเร็วของพายุไต้ฝุ่นในระดับ 3 ถล่มอำเภอเมืองชุมพรอำเภอท่าแซะ และอำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร รวมถึงอำเภอบางสะพานน้อย และบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

อร่อยรักษ์โลก!! รู้จัก ‘alt.Eatery’ คอมมูนิตี้แห่ง Plant-based อาหาร ‘สุขภาพ-รักษ์โลก’ ในราคาที่เอื้อมถึง

กระแส Plant-based กำลังกลายเป็นเทรนด์ระดับโลก เนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคให้ความสำคัญกับสุขภาพมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้พฤติกรรมของผู้บริโภคที่ลดการบริโภคเนื้อสัตว์ ผนวกกับเทรนด์ในการรักษ์โลกและสิ่งแวดล้อมเด่นชัดขึ้น เนื่องจากกระบวนผลิตและบริโภคเนื้อจากพืช (Plant-based) ช่วยลดโลกร้อนได้ อีกทั้งยังคำนึงถึงสวัสดิภาพสัตว์ที่กลายเป็นอาหารของมนุษย์มาอย่างยาวนาน 

ก่อนหน้านี้ได้มีผลสำรวจจาก Euromonitor International's Voice of the Industry: Health and Nutrition 2022 ที่ตั้งคำถามว่า “เหตุผลอะไรที่คุณบริโภค Plant-based” โดยสำรวจไว้เมื่อปี 2021 และล่าสุดเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2022 แล้ว ก็ปรากฏว่า เหตุผลใน 3อันดับแรกที่เคยสำรวจไว้ไม่แตกต่างกัน ได้แก่... 

- ร้อยละ 37 ทาน Plant-based เพราะรู้สึกแข็งแรงขึ้น 
- ร้อยละ 25 ทาน Plant-based เพราะต้องการหลีกเลี่ยงปัญหาสุขภาพในระยะยาว 
- และร้อยละ 24 ทาน Plant-based เพราะรสชาติอร่อย

ขณะที่บริษัท Euromonitor and Alliesได้ประมาณการมูลค่าตลาดของ Plant-based ในประเทศไทยไว้ ว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 845 ล้านดอลลาร์ในปี พ.ศ. 2562 เป็น 1,500 ล้านดอลลาร์ในปี พ.ศ. 2567 ซึ่งถือเป็นการเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 10 ต่อปี 

จากข้อมูลเหล่านี้ จึงเริ่มชี้ชัดว่า ธุรกิจอาหาร Plant-based จะกลายเป็นธุรกิจที่น่าสนใจ ตอบโจทย์ทั้งในเชิงของการรักษ์โลกและสุขภาพที่กำลังเป็นเทรนด์มาแรงอีกด้วย

สำหรับในประเทศไทย ปัจจุบันก็เริ่มมีธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับ Plat-Based เกิดขึ้นมาก แต่ที่โดดเด่นอย่างเห็นได้ชัด ก็คือหนีไม่พ้นคอมมูนิตี้แห่งอาหาร Plant-based ที่ใช้ชื่อว่า ‘alt.Eatery’

คุณพรรณนภิศ ฤทธิไพโรจน์ (คุณพลอย) ผู้จัดการฝ่ายธุรกิจและการตลาด บริษัท นิวทรา รีเจนเนอเรทีฟ โปรตีน จำกัด (NRPT) บริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด (บริษัทย่อยที่ ปตท. ถือหุ้น 100%) กับบริษัท โนฟ ฟู้ดส์ จำกัด ซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่อดำเนินธุรกิจพัฒนาและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารโปรตีนจากพืชแบบครบวงจร ได้พูดคุยถึงธุรกิจ ‘Life Science’ ของอาหารเพื่อสุขภาพ Plant-based กับทีมข่าว THE STATES TIMES ว่า…

“ร้าน alt.Eatery เป็นคอมมูนิตี้อาหาร Plant-based ที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ แห่งแรกบนพื้นที่ของแสนสิริ ริมถนนสุขุมวิท 51 ภายในร้านประกอบด้วย 2 โซน ได้แก่ร้านอาหาร และ Mini Mart ในโซนร้านอาหารมีเมนูตั้งแต่ Appetizer, Main, ของหวาน โดยในโซน Mini Mart นั้นจะมีสินค้า Plant-based มากกว่า 500 ชนิด จากผู้ประกอบการมากกว่า 80 ราย ให้เลือกซื้อ”
 

ประมงจังหวัดตราด พร้อมใจ น้อมเกล้าฯ ถวายอาหารทะเลที่มีสารไอโอดีน สู่ เด็กๆ ที่ราบสูง ในถิ่นทุรกันดาร ตามโครงการพระราชดำริฯ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 27

3 พ.ย. 65 ณ สมาคมประมงจังหวัดตราด และ ท่ากัลปังหา อ.คลองใหญ่ : ตามที่ กองทัพเรือ โดย ทัพเรือภาคที่ 1 ได้เยี่ยมพบปะ พี่ น้อง ประมง ในส่วนของ จังหวัดตราด และ ได้ เชิญชวนร่วมกิจกรรมฯ ดังกล่าว 

สมาคมประมงจังหวัดตราด และ สมาคม ชาวประมงร่วมใจ อ.คลองใหญ่ ตอบรับ เข้าร่วม ‘’ โครงการหลวง ’’  พร้อมน้อมเกล้าฯ สำหรับ “กิจกรรมน้อมเกล้าฯ ถวายปลากะตักแห้ง ปลาทูเค็ม และอาหารทะเลที่มีสารไอโอดีน โดยเสด็จพระราชกุศล โครงการตามพระราชดำริต่อต้านโรคขาดสารไอโอดีน” ซึ่งในปีนี้นับเป็นปีที่ 27 
 

Kick off พื้นชีวิตถังขยะเปียก ลดโลกร้อน ตั้งเป้าหมายจัดทำถังขยะเปียกลดโลกร้อน ครบ 100 % ภายในเดือนธันวาคม 2565 ขยายผลจากท้องถิ่นสู่ครัวเรือน

วันที่ 3 พ.ย.65  ที่บริเวณแปลงผักสวนครัว จวนผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีเป็นประธานเปิดกิจกรรม "Kick off พื้นชีวิตถังขยะเปียก ลดโลกร้อน โดยมีแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดจันทบุรี ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมกิจกรรม เป็นกิจกรรมหนึ่งตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนโครงการถังขยะเปียก ลดโลกร้อนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

จังหวัดจันทบุรีกำหนดจัดกิจกรรมพร้อมกันทั้งจังหวัด ทั้งในระดับอำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อเป็นการรณรงค์ ประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ในการจัดทำถังขยะเปียกลดโลกร้อน กิจกรรมประกอบไปด้วยการฟื้นชีวิตถังขยะเปียกเดิม โดยการตักขยะอินทรีย์จากถังขยะเปียกเดิมใส่โคนต้นไม้ และร่วมสร้างชีวิตถังขยะเปียกใหม่ ด้วยการฝังถังขยะเปียกใบใหม่ผลของกิจกรรมนี้คาดว่าถังขยะเปียกในครัวเรือนที่ไม่ได้ใช้งานอยู่ร้อยละ 36


 

เช็กเลย!!

สิทธิประโยชน์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ประจำเดือน พฤศจิกายน 2565

?วันที่ 1 พ.ย.65
✨ซื้อสินค้าอุปโภค-บริโภค 200/300 บาท/เดือน
✨ค่าโดยสารรถเมล์ รถไฟฟ้า รถโดยสาร บขส. รถไฟ อย่างละ 500 บาท/เดือน
✨ก๊าซหุงต้ม-บุคคล 100 บาท/3 เดือน
✨ก๊าซหุงต้มหาบเร่แผงลอย 100 บาท/เดือน

?วันที่ 18 พ.ย.65
✨ค่าไฟฟ้า 315 บาท/เดือน
✨ค่าน้ำประปา 100 บาท/เดือน

?วันที่ 22 พ.ย.65
✨ช่วยเหลือผู้พิการ 1,000 บาท/เดือน
(จากเดิม 800 บาท + เพิ่ม 200 บาท)

5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2499 ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงลาผนวช รวมเวลาทรงผนวชทั้งสิ้น 15 วัน

5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2499 พระภิกษุพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงลาผนวช ณ วัดบวรนิเวศวิหาร รวมเวลาทรงผนวชทั้งสิ้น 15 วัน

พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงเข้าพิธีบรรพชาอุปสมบท เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ.2499 และทรงได้รับสมญานามจากพระราชอุปัชฌาจารย์ ว่า “ภูมิพโล” ในระหว่างที่ทรงดำรงสมณเพศ ทรงประทับ ณ พระตำหนักปั้นหย่า วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร

ระหว่างที่ทรงดำรงสมณเพศ พระภิกษุพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงปฏิบัติพระราชกิจ เช่นเดียวกับพระภิกษุทั้งหลายอย่างเคร่งครัด เช่น เสด็จลงพระอุโบสถทรงทำวัตรเช้า–เย็น ตลอดจนทรงสดับพระธรรมและพระวินัยนอกจากนี้ยังได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจพิเศษอื่นๆ อาทิ 
 

6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2310 ‘พระเจ้าตาก’ รบชนะพม่าที่ค่ายโพธิ์สามต้น กู้เอกราชสำเร็จหลังเสียกรุงศรีอยุธยา 7 เดือน

วันนี้ เมื่อ 255 ปีก่อน เป็นหนึ่งวันสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ชาติไทย เมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช รบชนะพม่า และฆ่าสุดกี้แม่ทัพพม่าตาย ถือเป็นการกู้เอกราชคืนจากพม่าได้สำเร็จ ซึ่งตรงกับวันศุกร์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2310 

ภายหลังจาก เจ้าตากตีเมืองจันทบุรีได้ เมื่อวันอาทิตย์ เดือน 7 แรม 3 ค่ำ จุลศักราช 1129 ปีกุน นพศก เพลา 3 ยามเศษ ตรงกับวันที่ 15 มิถุนายน 2310 เวลาประมาณ 03.00 น. หลังจากเสียกรุงศรีอยุธยาแล้ว 2 เดือน

หลังจากนั้น เจ้าตากได้เคลื่อนทัพไปยังเมืองตราด พวกกรมการและราษฎรเกิดความเกรงกลัวต่างพากันมาอ่อนน้อมโดยดี ภายหลังกลับจากตราดมาตั้งมั่นรวบรวมผู้คนอยู่ที่เมืองจันทบุรี เพื่อวางแผนปฏิบัติการรบเพื่อตีกรุงศรีอยุธยาคืนจากข้าศึก พร้อมกับสั่งให้ต่อเรือรบและรวบรวมเครื่องศัตราวุธและยุทธภัณฑ์ภายในเวลา 3 เดือน พร้อมกับฝึกไพร่พลให้พร้อมที่จะปฏิบัติการ
 

7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539 ในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จฯ พระราชพิธีถวายผ้าพระกฐิน โดยกระบวนพยุหยาตราชลมารค ณ วัดอรุณราชวราราม

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน โดยกระบวนพยุหยาตราชลมารค ณ วัดอรุณราชวราราม ในพระราชพิธีกาญจนาภิเษก

เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จพระราชดำเนินในพระราชพิธีถวายผ้าพระกฐิน โดยกระบวนพยุหยาตราชลมารค ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ซึ่งเป็นหนึ่งในพระราชพิธีกาญจนาภิเษก พุทธศักราช 2539 ที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองในวโรกาสที่ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี นับเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรกของไทยที่ครองราชย์สมบัติเป็นระยะเวลายาวนานที่สุด

ทั้งนี้ ในรัชสมัย ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้มีการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2500 จนกระทั่งปี พ.ศ. 2555 จำนวน 15 ครั้ง และจัดขบวนเรือพระราชพิธี จำนวน 2 ครั้ง 
 


TRENDING
© Copyright 2022, All rights reserved. Eec Time Thailand
Take Me Top