วันนี้ (19 ต.ค.) นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา เผยถึงนโยบายการดูแลสิ่งแวดล้อมบริเวณชายหาดเมืองพัทยา และหาดจอมเทียน ว่า จากนี้ไปเมืองพัทยาจะกำหนดให้ผู้ประกอบการร่มเตียงชายหาดทั้ง 2 แห่งต้องสลับกันหยุดประกอบกิจการในทุกวันพุธที่ 2 และ 3 ของเดือน เพื่อคืนสมดุลทางธรรมชาติ หลังในพื้นที่เริ่มมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเพิ่มมากขึ้น จากสถานการณ์โควิด-19 ที่เริ่มคลี่คลายจนทำให้การท่องเที่ยวในพื้นที่เริ่มฟื้นตัว ประกอบกับนโยบายเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติของรัฐบาลที่ทำให้มีการเดินทางเข้าพื้นที่มากขึ้น 

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการร่วมเตียงชายหาดพัทยา จะหยุดประกอบกิจการในวันพุธที่ 3 ของเดือน ส่วนชายหาดจอมเทียนจะหยุดทุกพุธที่ 2 ของเดือน เพื่อให้เจ้าหน้าที่สำนักสิ่งแวดล้อมเมืองพัทยา ได้ทำความสะอาดชายหาด รวมทั้งยังเป็นการฟื้นฟูธรรมชาติให้กลับมามีความสมบูรณ์

“ก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 เมืองพัทยาได้กำหนดมาตรการให้ผู้ประกอบกิจการร่มเตียงชายหาดหยุดทุกวันพุธของเดือน และเมื่อเกิดการแพร่ระบาดของโรค เมืองพัทยาจึงอนุโลมให้ผู้ประกอบการได้ประกอบกิจการในวันพุธ เพื่อแบ่งเบาความเดือดร้อนและกระตุ้นการท่องเที่ยวในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทย และเมื่อสถานการณ์การท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัวแล้ว เมืองพัทยาจึงเห็นควรว่าควรมีเวลาให้ธรรมชาติได้หยุดพักบ้าง”

นายกเมืองพัทยา ยังเผยถึงสาเหตุที่ไม่อนุญาตให้ผู้ประกอบการร่มเตียงทั้ง 2 ชายหาดมีวันหยุดตรงกัน เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มีทางเลือกในการใช้บริการเมื่อเดินทางเข้ามายังเมืองพัทยา

“อาจจะมีลูกค้าบางรายที่อยากนั่งร่มเตียงชายหาดจะได้มีตัวเลือกในการใช้บริการ แต่อย่างไรก็ตาม ในอนาคตเมืองพัทยาจะปรับรูปแบบการให้บริการนักท่องเที่ยวเพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยว และอาจมีการขยายเวลาให้ผู้ประกอบการได้มีเวลาขายที่ยาวขึ้นในช่วงวันหยุดนักขัตฤกษ์อีกด้วย” นายกเมืองพัทยา กล่าว

ด้าน นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เผยภายหลังเข้าร่วมประชุมกับสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก เพื่อรับฟังปัญหาและสถานการณ์การท่องเที่ยวของเมืองพัทยา หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายว่า คือปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ซึ่งในเบื้องต้น จ.ชลบุรี โดยสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงาน ได้อาสาที่จะจัดอบรมความรู้ให้ประชาชนในพื้นที่ในตำแหน่งและสาขาที่ขาดแคลน

เพื่อเร่งสร้างแรงงานป้อนเข้าสู่ตลาดรองรับการขาดแคลนแรงงานด้านบริการ ซึ่งปัจจุบันพบว่ามีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาใน จ.ชลบุรี แล้วกว่า 100,000 คน อีกทั้งในพื้นที่เมืองพัทยา พบว่ามีนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางเข้าพื้นที่มากถึง 7 ล้านคน ทำให้ภาพรวมการท่องเที่ยวของ จ.ชลบุรี เริ่มกลับมาคึกคักอย่างต่อเนื่อง

แต่ผู้ประกอบการโรงแรม ร้านอาหารและแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ จะต้องประกอบกิจการด้วยความเป็นธรรมและไม่เอารัดเอาเปรียบต่อนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นราคาที่พักและอาหาร รวมถึงงานบริการและการดูแลความปลอดภัย

“จากนี้ไปจะต้องมีการหารือเพื่อให้งานบริการและราคาที่พัก รวมถึงค่าอาหารให้มีมาตรฐานเดียวกัน และ จ.ชลบุรี จะจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว ทั้งงานพัทยามิวสิกเฟสติวัล งานพลุนานาชาติ และกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวอื่นๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่” ผู้ว่าราชการ จ.ชลบุรี กล่าว

ที่มา : https://mgronline.com/local/detail/9650000100186