ความคืบหน้าคนไทย 7 คน หลบหนีสถานที่กักขัง เครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนในกัมพูชา กลับถึงประเทศไทยแล้ว

(สระแก้ว) ความคืบหน้าคนไทย 7 คน หลบหนีสถานที่กักขัง เครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนในเมืองวาเวต ประเทศกัมพูชา กลับถึงประเทศไทยแล้ว โดย 4 คนเข้า-ออกถูกต้อง มีหนังสือเดินทาง แต่ถูกยึดและบังคับให้ทำงาน ซึ่ง 1 ใน 4 คน ทำไม่ได้ ถูกซ้อมและทำร้ายร่างกาย เพราะหลอกคนไทยไม่สำเร็จ

เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้ากรณีคนไทยผู้ใช้เฟซบุกชื่อว่า “แร้วงัย คัยแคร์” ได้ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊ก ขอความช่วยเหลือเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา โดยบอกว่า เป็นคนไทย 7 คน กำลังหนีเอาชีวิตรอดจากการถูกหลอกและกักขังบังคับให้ทำคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน ที่พิกัดเมืองบาเวต ประเทศกัมพูชา ติดชายแดนประเทศเวียดนาม แต่หนีออกจากบริเวณดังกล่าวไม่ได้ เนื่องจากมีลวดไฟฟ้า ต้องไปรวมตัวกันหลบอยู่ใต้บันไดหลายชั่วโมง ต้องการความช่วยเหลือจากหน่วยงานรัฐไทยและกัมพูชา ซึ่งถือว่า เข้าข่ายการค้ามนุษย์ หากไม่มีการช่วยเหลือจะถูกตามจับกลับไปกักขังอีก โดยบอกเล่าเหตุการณ์ผ่านเฟซบุ๊ก

จนกระทั่ง สามารถเจรจากับพนักงานรักษาความปลอดภัยชาวกัมพูชา จนนายทุนชาวจีนสั่งให้ปล่อยตัวทั้งหมดออกไปเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา และทั้งหมดได้เหมารถตุ๊ก ๆ ออกมาจากพื้นที่และประสานเช่ารถ เดินทางออกมาจากพื้นที่เมืองบาเวต มายังกรุงพนมเปญ เพื่อประสานงานกับทางสถานทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ ขอให้ส่งตัวเดินทางกลับประเทศไทย

ล่าสุด ช่วงเวลา 19.00 น.วานนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.รุ่ง ทองมนต์ ผกก.ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว ร่วมกับ พ.อ.อนุพงศ์ มูลบรรจบ ผบ.ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 13 โดยเจ้าหน้าที่กองร้อยทหารพรานที่ 1302 ,นายบุรินทร์ ล่วงเขต ผช.ป้องกันจังหวัดสระแก้ว และกลุ่มช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์ต่างแดน ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า “ก็แค่ คนธรรมดา” ได้ร่วมรับตัวคนไทยเหยื่อที่ถูกหลอกลวง ชักชวนให้ลักลอบข้ามแดนไปทำงานในกัมพูชา กลับสู่ประเทศไทย จำนวน 7 คน แบ่งเป็น ชาย 2 คน หญิง 5 คน ประกอบด้วย น.ส.วันวิสา (ขอสงวนนามสกุล), นายอภินันท์ (ขอสงวนนามสกุล), น.ส.จันทิมา (ขอสงวนนามสกุล), น.ส.สายธาร (ขอสงวนนามสกุล), น.ส.กฤษดาพร (ขอสงวนนามสกุล), นายประยูร (ขอสงวนนามสกุล) และ น.ส.อโณชา (ขอสงวนนามสกุล) บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนนำตัวมาสอบสวน ณ บริเวณทำการกองร้อยทหารพรานที่ 1302 และเข้าสู่กระบวนการคัดแยกเหยื่อตามขั้นตอน ก่อนส่งตัวกลับภูมิลำเนา

ทางด้าน พ.ต.อ.รุ่ง ทองมนต์ ผกก.ตม.สระแก้ว กล่าวว่า กรณีการเข้า-ออกของคนไทยดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองก็ต้องมีการตรวจสอบว่า มีการเข้า-ออกแบบไม่ถูกต้องหรือไม่ และต่อจากนี้ ทาง ตม.สระแก้ว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาจจะต้องเข้มงวดการเข้าออกให้มากขึ้น เบื้องต้นพบว่า ในจำนวนนี้มี 4 คน ที่มีหนังสือเดินทางในการเดินทางเข้าไปในประเทศกัมพูชา ส่วนอีก 3 คน อยู่ระหว่างตรวจสอบหากพบว่า ไม่ได้เข้าออกตามช่องทางผ่านแดนก็ต้องมีการดำเนินการปรับขั้นต้นตามกฎหมาย 800 บาท เช่นเดียวกับรายอื่น ๆ ในช่วงที่ผ่านมา

ทางด้าน ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า “ก็แค่ คนธรรมดา” หรือ คุณเบิร์ด ได้โพสต์ข้อความหลังเข้าช่วยเหลือคนไทยทั้ง 7 คนจนสามารถเดินทางกลับมายังประเทศไทยได้เป็นผลสำเร็จ ร่วมกับทีมงานกลุ่มช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์ต่างแดนอีกหลายคนและหลายหน่วยงาน ระบุว่า "ที่สถานีด่านพรมแดนบ้านคลองลึก Ban Klong Luk Border Station กรณีช่วยเหลือ 7 คนไทยไลฟ์สด กลับไทยแล้ว โดยเคสที่ไลฟ์สดขอความช่วยเหลือจากน้อง ๆ คนไทยทั้ง 7 คน ที่ถูกหลอกไปทำงานที่บาเวต สวายเรียง กัมพูชา ที่ขอความช่วยเหลือมาทางผม ตอนนี้ถึงไทยเรียบร้อยแล้ว ขอบคุณทีมช่วยเหลือทุกคนครับ พวกเราทำงานใช้ใจทำ ไม่หวังผลตอบแทน เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ช่วยเหลือ ล้วนเป็นเงินส่วนตัวของพวกเราทั้งนั้น

ทั้งนี้ สาเหตุ เนื่องจากในกลุ่มนี้ 7 คน มีน้อง 4 คน ที่เข้า-ออก ถูกต้องตามกฎหมาย แต่โดนประณามว่า ตั้งใจจะไปทำแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ข่าวบางทีก็เกินจริงครับ น้องเดินทางถูกต้อง แต่ถูกยึดหนังสือเดินทางและถูกบังคับให้หลอกคนไทย แล้วทำไม่ได้ มี 1 ใน 4 คนนี้ถูกซ้อม และทำร้ายร่างกาย เพราะหลอกคนไทยไม่ได้ ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประสานช่วยเหลือน้องทุกท่านครับ อธิบายไม่หมด แต่จบที่น้องได้กลับสู่แผ่นดินไทย จากใจ คนไทยไม่ทิ้งกันครับ"

ขณะเดียวกัน เหยื่อหนึ่งใน 7 คน เปิดเผยข้อมูลผ่าน นายบุรินทร์ ล่วงเขต ผช.ป้องกันจังหวัดสระแก้ว ระบุว่า “น้อง ๆ เล่าว่า ได้สมัครงานผ่านกลุ่มเฟซบุ๊ก ทำงานในปอยเปต มีสิ่งจูงใจคือค่าตอบแทน เมื่อเดินทางข้ามแดนไปยังกรุงปอยเปต ประเทศกัมพูชา มีเอเย่นต์พาขึ้นรถตู้ นั่งรถไปนานกว่า 10 ชั่วโมง ถึงเมืองบาเวต จังหวัดสวายเรียง ติดชายแดนประเทศเวียดนาม ไปถึงถูกบังคับให้ทำงานทันที ทำหน้าที่เป็นแอดมิน เว็บเงินกู้ชักชวนคนไทยให้กู้เงิน ลักษณะเป็นเพจปลอม เมื่อทราบว่า ต้องทำงานที่ต้องหลอกลวง น้องเลยไม่อยากที่จะทำ จึงทำให้ทำยอดไม่ได้ตามเป้าของนายทุนจีน หากทำยอดไม่ได้ตามเป้าก็จะไม่ได้พัก ต้องอดทนนั่งทำงานติดต่อเหยื่อไปเรื่อย ๆ อาหารการกินก็มีแต่ผัก กินก็ไม่อิ่มนอนก็ไม่หลับ จึงได้พากันขุดทรายเพื่อลอดกำแพงตึกหนีออกมาด้วยความลำบาก และได้ไลฟ์สดขอความช่วยเหลือดังกล่าว”

ที่มา : https://www.77kaoded.com/news/thanapat/2383292