คืบเหตุไฟไหม้ห้องแถวตลาดบ้านบึง จ.ชลบุรี วอดรวม 8 คูหา เสียหายรวมกว่า 50 ล้านบาท!!

ความคืบหน้าเหตุไฟไหม้ห้องแถวไม้เก่าแก่อายุเกือบ 100 ปี กลางตลาดบ้านบึง จังหวัดชลบุรี ล่าสุด พบเพลิงเผาวอดทั้งหมด 8 คูหา เสียหายไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท ส่วนสาเหตุรอทางพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบอีกครั้ง

วันที่ 12 มกราคม 2566 ตามความคืบหน้า จากเหตุการณ์ไฟไหม้ห้องแถวไหม้เก่าอายุเกือบ 100 ปี กลางตลาดบ้านบึง อำเภอเมืองบ้านบึง จังหวัดชลบุรี จนทำให้เพลิงไหม้บ้านไม้เสียหาย จำนวน 8 คูหา โดยเหตุเกิดขึ้นช่วงเวลา 03.00 น. ของวันที่ 11 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ดับเพลิง พร้อมรถดับเพลิงจากเทศบาลเมืองบ้านบึงและใกล้เคียง กว่า 5 คัน ได้ช่วยกันฉีดน้ำเพื่อสกัดเพลิงที่ลุกไหม้ห้องแถวไม้ 2 ชั้น

โดยเพลิงได้ลุกบริเวณชั้น 2 ของร้านสะดวกซื้อ เลขที่ 427 เขตเทศบาลเมืองบ้านบึง และได้ลุกลามไปยังห้องข้าง ๆ อย่างรวดเร็ว อีกรวม 8 ห้อง ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งฉีดนำ เพื่อสกัดเพลิงไม่ให้ลุกลามเป็นวงกว้าง โดยใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ในวงจำกัดและดับลงในที่สุด ตรวจสอบไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

ส่วนบรรยากาศวันนี้ ทางผู้สื่อข่าวลงพื้นที่เกิดเหตุพบมีเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ลงพื้นตรวจสอบความเสียหาย ซึ่งมีจำนวน 6 ห้อง 8 คูหา ส่วนใหญ่ได้รับความเสียหายชั้นบน โดยที่มีชาวบ้านอยู่บริเวณหน้าบ้านของตัวเอง ยังมีสีหน้าตื่นกลัว อีกทั้งยังมีความกังวลเรื่องของการชดใช้ เนื่องจากไม่ต้องการที่จะซ่อมแซม ต้องการที่จะสร้างใหม่ เพราะกลัวหากซ่อมแซม จะมีการทรุดตัวภายหลัง

ด้านนายกิมจิว พงศ์พบไพบูลย์ อายุ 81 ปี อยู่บ้านเลขที่ 425 เขตเทศบาลเมืองบ้านบึง 1 ในผู้เสียหาย ที่ประกอบอาชีพขายลอตเตอรี่ กล่าวว่า ตอนนั้นช่วงเวลาตีสองกว่าๆ ตนเองกับครอบครัวกำลังนอนอยู่ได้ยินเสียงดังสนั่นเหมือนอะไรระเบิด และมีกลิ่นไหม้และควันไฟลอยมาจึงรีบเรียกคนในครอบครัว รวม 3 คนรีบวิ่งออกจากบ้าน ก็พบว่าไฟไหม้ร้าน 7-11 อย่างรุนแรง และรีบเข้าไปดูทรัพย์สินแต่ไฟมาเร็วมากจึงไม่สามารถเอาจะไรออกมาได้เลยแม้แต่ชิ้นเดียว

ขณะที่ทาง พ.ต.อ.ทวี กุดแถลง ผกก.สภ.บ้านบึง จ.ชลบุรี กล่าวว่า จากการตรวจสอบในช่วงเช้า อีกครั้ง พบว่า ต้นเพลิงมาจากร้านสะดวกซื้อ ที่ได้รับการยืนยันว่าจะชดใช้ทั้งหมด ส่วนสาเหตุคาดว่ามาจากไฟฟ้าลัดวงจร ส่วนทางด้านความเสียหายคาดว่าไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม คงต้องรอให้ทางตำรวจพิสูจน์หลักฐานลงมาตรวจสอบสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง

ที่มา : https://www.thairath.co.th/news/local/east/2600305