Sunday, 28 April 2024
NEWSFEED

นายกสภาทนายฯ ตั้งทีมลงพื้นที่ หลังผู้ประกอบอาชีพประมงระยองร้องช่วยทางกฎหมาย เหตุน้ำมันดิบรั่วกระทบระบบนิเวศและรายได้

วันที่ 5 มกราคม 65 เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมชั้น 4 สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ ถ.พหลโยธิน ผู้ประกอบอาชีพประมงพื้นบ้านและอาชีพต่อเนื่องการประมง จังหวัดระยอง ประมาณ 30 คน เดินทางมายื่นหนังสือขอความช่วยเหลือทางกฎหมายกับสภาทนายความ กรณีเกิดเหตุน้ำมันดิบใต้ทะเล บริเวณหุ่นผูกเรือน้ำลึก หรือจุดขนถ่ายน้ำมันในทะเลของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง รั่วไหลบริเวณนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง ทำให้ผู้ประกอบอาชีพประมงพื้นบ้านและอาชีพต่อเนื่องกับห่วงโซ่อุปทานการประมงในอ่าวจังหวัดระยอง ได้รับผลกระทบเกี่ยวกับระบบนิเวศและรายได้จากการประกอบอาชีพ

โดยมี ดร.วิเชียร ซุปไธสง นายกสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์, นายสมพร ดำพริก อุปนายกฝ่ายช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย สภาทนายความ, นายสัญญาภัชระ สามารถ อุปนายกฝ่ายปฏิบัติการ สภาทนายความ และว่าที่ร้อยตรีสมชาย อามีน ประธานอนุกรรมการ สิ่งแวดล้อมฝ่ายคดีและปฏิบัติการ สภาทนายความ เป็นผู้รับเรื่อง

ว่าที่ร้อยตรีสมชาย ระบุว่า เหตุการณ์กรณี บริษัทแห่งหนึ่งทำน้ำมันดิบ รั่วไหลลงอ่าวระยอง ระหว่างขนถ่ายกลางทะเล เมื่อวันที่ 25 ม.ค. 2565 ที่ผ่านมา มากกว่า 4 แสนลิตร ทำให้ผู้ประกอบอาชีพประมงพื้นบ้านและอาชีพต่อเนื่อง จังหวัดระยอง ได้รับผลกระทบมีน้ำมันดิบกระจายเป็นวงกว้าง ถูกพัดเข้าถ่ายฝั่ง จากข้อมูลของสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA ระบุว่า น้ำมันดิบแพร่ในทะเลกว้างกว่า 9 เท่า ของเกาะเสม็ด ทำให้ชาวบ้าน ชาวประมงได้ผลกระทบ ต่อทรัพยากรสัตว์น้ำบริเวณชายฝั่งที่ชาวประมงพื้นบ้านใช้เป็นที่ทำมาหากิน

ผลของน้ำมันดิบรั่วไหลและการใช้ สารเคมีกำจัดคราบน้ำมันในพื้นที่ ทะเลตื้นทำให้สัตว์น้ำหลายประเภทหายไปจากบริเวณอ่าวระยอง ซึ่งปัจจุบันเรือประมง หลายประเภทต้องจอดนิ่งอยู่ท่าเรือ เนื่องจากเรือออกไปไม่มีสัตว์น้ำให้จับ ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก อีกทั้งความขาดแคลนนี้ยังส่งผลกระทบเชิงลบต่อเนื่องไปถึงห่วงโซ่

นอกจากนี้ การประมงพื้นบ้านและเรือขนาดกลางที่หากิน ได้จากจุดที่น้ำมันดิบรั่วไหล ยังสร้างความหวาดระแวงต่อประชาชนในพื้นที่ และนักท่องเที่ยวที่จะตัดสินใจซื้ออาหารทะเล ทั้งที่เป็นวัตถุดิบและปรุงสำเร็จในจังหวัดระยอง ทั้งนี้ กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากการรั่วไหลของน้ำมันดิบในครั้งนี้ ที่มาจากพื้นที่ปากน้ำระยองและเครือข่าย ต้องการที่จะยื่นฟ้องต่อศาลยุติธรรมเพื่อการเจรจาหาข้อยุติร่วมกัน ระหว่างบริษัทก่อมลพิษกับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ เพื่อให้ได้รับค่าเยียวยาที่เป็นธรรม เป็นการเรียกค่าชดเชยตามความเป็นจริงจากการสูญรายได้ที่ควรจะได้

โดยจากการได้รับความเสียหายในครั้งนี้กับทางบริษัทผู้ก่อเหตุยังมีการเยียวยาชดเชยให้ในจำนวนน้อย และระบุจะชดเชยจำกัดแค่เรือประมงที่ละเบียนไว้เท่านั้น จึงไม่เป็นเป็นธรรมกับผู้ทำประมงพื้นบ้าน ผู้ได้รับผลกระทบอื่น เกรงว่าจะมีการดึงเรื่องการชดเชยเยียวยาจนหมดอายุความในการเรียกร้องค่าเสียหาย

อย่างไรก็ตาม มีประเด็นที่น่าสนใจ ซึ่งเป็นข้อเสนอของชาวบ้านในพื้นที่ ว่าเมื่อการขนส่งขนถ่ายน้ำมันดิบทางทะเลเกิดการรั่วบ่อยครั้ง เหตุใดทางนิคมอุตสาหกรรม หรือกรมเจ้าท่าไม่หารือเปลี่ยนวิธีการขนส่งน้ำมันเป็นทางบกแทน

‘ศักดิ์สยาม’ ลงนามตั้ง 10 คณะกรรมการ สอบปมเปลี่ยนป้ายชื่อ ‘สถานีกลางบางซื่อ

(5 ม.ค. 65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อ 4 ม.ค.ที่ผ่านมา นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ลงนามในคำสั่ง แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริงการก่อสร้างในโครงการปรับปรุงป้ายชื่อ ‘สถานีกลางบางซื่อ’ เป็น ‘สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์’ และตราสัญลักษณ์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) แล้ว

โดยประกาศเนื้อหาระบุว่า ตามที่ปรากฏข้อมูลทางโซเชียลมีเดีย (Social Media) และ เว็บไซต์ข่าว เกี่ยวกับการลงนามในสัญญาจ้างการก่อสร้างโครงการปรับปรุงป้ายชื่อสถานีกลางบางซื่อเป็นสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์และตราสัญลักษณ์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่มีมูลค่าสูงถึง 33 ล้านบาทเศษ (วงเงินงบประมาณที่ได้รับจัดสรรจำนวน 34 ล้านบาท) มีราคากลางคำนวณ ณ วันที่ 9 ธันวาคม 2566 จำนวน 33,169,726.39 บาท โดยใช้วิธีการจัดซื้อหรือจ้างแบบเฉพาะเจาะจง ซึ่งผู้ที่ได้รับ การคัดเลือกและราคาที่ตกลงซื้อหรือจ้าง ได้แก่ บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ

เป็นเหตุให้มีการตั้งข้อสังเกตถึงความเหมาะสมในการใช้งบประมาณ รวมถึงนายสราวุธ สราญวงศ์ ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ยื่นหนังสือเพื่อขอให้การรถไฟแห่งประเทศไทย ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว เนื่องจากไม่ใช่เหตุของความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการโดยใช้วิธีการว่าจ้างเอกชนด้วยวิธีเฉพาะเจาะจง ซึ่งจะทำให้การรถไฟแห่งประเทศไทยสูญเสียงบประมาณในการว่าจ้างปรับปรุงป้ายชื่อที่มีมูลค่าสูงเกินกว่าปกติ

สลด!! รถไฟสายกรุงเทพ-คลองลึก จ.สระแก้ว พุ่งชนรถปิกอัพ ตาย 1 บาดเจ็บสาหัส 1 ราย

เมื่อวันที่ 4 ม.ค. 66 เวลา 16.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเอกภพ โสภณ นายอำเภอเมืองสระแก้ว, พ.ต.อ.เอกอนันต์ หูแก้ว ผกก.สภ.เมืองสระแก้ว ได้รับแจ้งจาก ศูนย์วิทยุกู้ภัยมูลนิธิสว่างสระแก้วว่า เกิดอุบัติเหตุรถไฟชนกับรถยนต์ มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตในพื้นที่ ตำบลศาลาลำดวน อำเภอเมืองสระแก้ว จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมายังบริเวณที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นทางหลวงชนทบพาดผ่านทางรถไฟสายสระแก้ว-กรุงเทพ พื้นที่หมู่บ้านศาลาลำดวน เส้นทางไปหมู่บ้านแสงจันทร์ ตำบลโคกปี่ฆ้อง อำเภอเมืองสระแก้ว จังหวัดสระแก้ว

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบรถยนต์ที่เกิดอุบัติเหตุเป็นรถกระบะ หมายเลขทะเบียน บง-8162 สระแก้ว ขับลงไปตกท้องร่องถนน สภาพนอนตะแครงอยู่ พบผู้เสียชีวิตคาที่ในรถยนต์ 1 ราย ทราบชื่อต่อมา นายสม ไม่ทราบนามสกุล ส่วนผู้บาดเจ็บ คือนายประหยัด เภาชิต อายุ 77 ปี อยู่บ้านเลขที่ 206/1 ม.6 ต.โคกปี่ฆ้อง อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว ซึ่งเดินทางมาด้วยกันสองคน

‘อนุทิน’ ย้ำ มาตรการดูแลนักท่องเที่ยวทุกชาติเท่าเทียม ชี้ ปรับตามสถานการณ์ที่เปลี่ยน วอน อย่าตั้งป้อมรับจีน เพราะไม่เคยขัดแย้งกัน

(5 ม.ค.66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมเตรียมความพร้อมรับผู้เดินทางเข้าประเทศจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เร้นท์ ว่า วันนี้ข้อสรุปแต่ละมาตรการมีอยู่แล้ว และจะนำมาหารือและแจ้งให้แต่ละหน่วยงานทราบในการต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนที่จะเขามาในไทย ที่คาดว่าในต้นปีจะมีประมาณ 4-5 หมื่นคน และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้รับทราบมาตรการรองรับสถานการณ์ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศไทย และเป็นไปในแนวทางเดียวกัน แล้วจะสอบถามกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เรื่องค่าเหยียบแผ่นดิน ที่เปรียบเหมือนการทำประกันของนักท่องเที่ยว ที่จะต้องดูนักท่องเที่ยวที่เจ็บป่วย ไม่เฉพาะโควิด-19 จะมีผลบังคับใช้เมื่อไหร่ จะได้มีงบประมาณดำเนินการ ขณะที่ระบบสาธารณสุขของไทย ทางสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ก็มีงบประมาณก้อนหนึ่งสำหรับดูแลนักท่องเที่ยวต่างชาติเช่นกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่านักท่องเที่ยวจีนจะต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทันทีที่ถึงสนามบินหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องนี้กรมควบคุมโรค จะกำหนดมาตรการออกมาตามสถานการณ์ และจะมีข้อกำหนดเป็นแนวทางปฏิบัติ และต้องทำเต็มที่กับทุกประเทศอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ให้เกิดปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

เมื่อถามว่ามาตรการป้องกันกรณีที่นักท่องเที่ยวจะเดินทางเข้ามาครั้งนี้แตกต่างจากที่ผ่านมาอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า เราจะใช้มาตรการที่มีอยู่เดิมให้มากที่สุด และเรารับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ไม่ใช่เฉพาะกับจีน แต่อีกทางจะต้องเน้นที่ตัวเองต้องหุ้มเกราะ คือฉีดวัคซีนให้เรียบร้อยก่อน อย่างน้อย 4 เข็มเพื่อความปลอดภัยและลดความเสี่ยงโดยสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะและพื้นที่แออัด ในส่วนของนักท่องเที่ยวจีน เขามีการตรวจก่อนเดินทางออกนอกประเทศและเมื่อกลับเข้าประเทศ ในขณะที่สถานทูตจีน ได้ประสานกับโรงพยาบาลที่จะทำการรักษาไว้เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้นักท่องเที่ยว ที่เข้ามาสามารถเดินทางไปได้ทั่วประเทศ ไม่ได้แบ่งว่าเป็นนักท่องเที่ยวชาติไหน เพราะเราถือว่าเป็นนักท่องเที่ยวทั้งหมด แต่ละคนก็มาจากประเทศที่มีการติดเชื้ออยู่ที่ว่าจะเป็นเชื้อใหม่หรือเก่า ถ้าเป็นเชื้อใหม่ มาตรการรับมือก็เปลี่ยนได้ ดังนั้นอย่านำมาตรการของไทยไปเทียบกับประเทศอื่น เพราะนี่ประเทศไทยไม่เหมือนกัน

อบต.ตาหลังใน ร่วมลงนาม MOU กิจกรรม Kick off โครงการมหัศจรรย์ 1,000 วัน Plus 2,500 วัน ร่วมกับ สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย 4D อำเภอวังน้ำเย็น เพื่อพัฒนาระบบการดูแลสตรีตังครรภ์และเด็กแรกเกิด 0–5 ปี

เมื่อวันที่ 3 ม.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอำนาจ พิพิธกุล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลตาหลังใน อำเภอวังน้ำเย็น จังหวัดสระแก้ว ร่วมกิจกรรม Kick off โครงการมหัศจรรย์ 1,000 วัน Plus 2,500 วัน โดยมีสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย 4D อำเภอวังน้ำเย็น จังหวัดสระแก้ว ร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับภาคีเครือข่าย MOU ระหว่าง ที่ว่าการอำเภอวังน้ำเย็น, เจ้าคณะอำเภอวังน้ำเย็น, เครือข่ายบริการสุขภาพอำเภอวังน้ำเย็น, สำนักงานส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นอำเภอวังน้ำเย็น, เทศบาลเมืองวังน้ำเย็น, องค์การบริหารส่วนตำบลตาหลังใน, องค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งมหาเจริญ, องค์การบริหารส่วนตำบลวังน้ำเย็น, กำนันตำบลตาหลังใน, กำนันตำบลทุ่งมหาเจริญ, และกำนันตำบลคลองหินปูน ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลตาหลังใน โดยมี นายกิจจา เสาวรส นายอำเภอวังน้ำเย็น เป็นประธานในพิธีลงนาม

‘อนุทิน’ แจงมาตรการป้องกันโควิดรับนักท่องเที่ยวยึดหลักเท่าเทียมทุกชาติ เน้นรับวัคซีน มีประกันสุขภาพ ตรวจสายพันธุ์ไวรัสในน้ำเสียจากเครื่องบินเพื่อการเฝ้าระวัง

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แจงมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 ในกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน เตรียมเสนอวันที่ 5 มกราคมนี้ ยึดหลักปฏิบัติเท่าเทียมกันทุกชาติและเป็นไปตามมาตรฐานทางวิชาการ ตรวจเฝ้าระวังเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ในน้ำเสียจากเครื่องบิน ผู้เดินทางต้องได้รับวัคซีนอย่างน้อย 2 เข็ม มีประกันสุขภาพครอบคลุมการรักษาโควิด-19 พร้อมสื่อสารมาตรการป้องกันตนเอง คาดนักท่องเที่ยวจีนจะทยอยเดินทางมาไตรมาสแรก 3 แสนคน สามารถวางแผนรับมือได้อย่างเป็นระบบ

(4 ม.ค.66) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แถลงถึงสถานการณ์โรคโควิด-19 และการเตรียมความพร้อมรองรับผู้เดินทางจากประเทศจีน ภายหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูงกระทรวงสาธารณสุข ว่า สถานการณ์โรคโควิด 19 ของประเทศไทยมีแนวโน้มลดลง โดยข้อมูลวันที่ 25-31 ธันวาคม 2565 มีผู้ป่วยรักษาในโรงพยาบาล 2,111 ราย เฉลี่ย 301 รายต่อวัน ผู้ป่วยปอดอักเสบ 529 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 352 ราย และผู้เสียชีวิต 75 ราย เฉลี่ย 10 รายต่อวัน โดยเกือบทั้งหมดยังเป็นกลุ่มเสี่ยง 608 ที่ไม่ได้รับวัคซีน ได้รับวัคซีนไม่ครบ ไม่ได้รับเข็มกระตุ้น หรือได้รับเข็มกระตุ้นนานเกิน 3 เดือนขึ้นไป โดยกระทรวงสาธารณสุขแนะนำให้ทุกคนฉีดวัคซีนให้ครบ 4 เข็ม เว้นระยะห่างทุก 4 เดือน ซึ่งช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีการรับบริการวัคซีนเพิ่มขึ้น 277,206 โดส สะสม 145,928,256 โดส โดยเป็นเข็มแรกร้อยละ 82.7 เข็มที่ 2 ร้อยละ 77.7 เข็มที่ 3 ร้อยละ 38.9 และเข็มที่ 4 ร้อยละ 9.1

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีจีนเตรียมเปิดประเทศ จากการประมาณการนักท่องเที่ยวจีนในไตรมาสแรก (มกราคม-มีนาคม 2566) มีประมาณ 3 แสนคน คิดเป็น 5% ของนักท่องเที่ยวทุกชาติรวมกัน คาดว่ามกราคมจะเข้ามา 60,000 คน กุมภาพันธ์ 90,000 คน และมีนาคม 150,000 คน โดยจะเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากปัจจุบันยังมีเที่ยวบินจำกัด มีระยะเวลาในการขอทำหนังสือเดินทางและการขอวีซ่า และรัฐบาลจีนยังไม่อนุญาตให้บริษัทนำเที่ยวนำกลุ่มทัวร์ออกนอกประเทศ ผู้เดินทางจะเป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยตัวเองและเป็นกลุ่มนักเดินทางระดับบนที่มีกำลังซื้อ

สอ.รฝ. ให้การต้อนรับทหารใหม่​ ทำหน้าที่เป็นรั้วของชาติอย่างภาคภูมิใจ

เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2566 นาวาเอกศุภสิทธิ์ บูรณะโอสถ รองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (รอง ผบ.สอ.รฝ.) รักษาราชการผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง เป็น​ประธาน​ในพิธีต้อนรับทหาร​ใหม่​ ผลัดที่ 3/65 ณ ลานอเนกประสงค์ กองบัญชาการ​ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยมีคณะผู้บังคับบัญชาของหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ร่วมให้การต้อนรับ

ทั้งนี้ การต้อนรับทหารใหม่ทุกนายที่เปรียบเสมือนน้องคนเล็กสุดท้องได้เข้ามาสู่รั้ว สอ.รฝ. และเป็นครอบครัวเดียวกัน เพื่อให้น้องทหารใหม่ทุกนาย มีความภาคภูมิใจที่จะมาทำหน้าที่เป็นรั้วของชาติในการปฏิบัติหน้าที่กับหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ซึ่งทหารใหม่ทุกนายจะได้รับการฝึกอบรม เพิ่มเติมความรู้ทักษะต่าง ๆ สามารถปฏิบัติหน้าที่เป็นทหารต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ซึ่งภายหลังจากฝึกเสร็จจะแยกย้ายไปปฎิบัติหน้าที่รับใช้ชาติ กับหน่วยขึ้นตรงของหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยาน และรักษาฝั่งในภารกิจที่สำคัญต่าง ๆ ต่อไป

ปราจีนบุรี-ช้างป่าอ่างฤาไน เที่ยวปีใหม่ในหมู่บ้านเพลิน จนกลับป่าไม่ถูก

เมื่อวันที่ 3 ม.ค.66 ผู้สื่อข่าวจังหวัดปราจีนบุรีรายงานว่า ชาวบ้านพบเห็นช้างป่าอ่างฤาไน เดินอยู่บนถนนบ้านโคกป่าแพง-บ้านโนน หมู่ 8 ตำบลกบินทร์ อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี จึงลงพื้นที่ตรวจสอบ พบกับกลุ่มชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ออกติดตามช้างป่าที่เดินลัดเลาะข้างหมู่บ้าน ช้างป่าตัวดังกล่าวหนีเข้าไปในป่าหลัง อบต.กบินทร์ และมุ่งหน้าไปยังบ้านเรือนประชาชน

ทั้งนี้ ช้างป่าตัวดังกล่าว ได้พังกำแพงบ้านเดินเข้าไปป่ามะม่วงหลังบ้านของ นางสมใจ แมกคอย เลขที่ 1/3 หมู่ 8 ต.กบินทร์ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี จากนั้นช้างเดินเฉียดเข้าไปในบ้านหลังดังกล่าว สร้างความตกใจให้กับเจ้าของบ้านและญาติ จากนั้นช้างเดินผละออกข้างบ้านมุ่งหน้าไปยังกำแพงปูนหน้าบ้าน จากนั้น พังกำแพงปูนสูง 2 เมตร พังแล้วเดินข้ามออกไปเข้าป่ายางพาราของชาวบ้าน และเดินลัดเลาะกำแพงรั้วบ้านของ นายสันติ เราหะหลินนุรักษ์ ชาวบ้านหมู่ที่ 2 ต.กบินทร์ สร้างความแตกตื่นให้กับทางผู้ใหญ่บ้านและชุดติดตามช้างอย่างมาก

สระแก้ว-กัมพูชาเริ่มรื้อสะพานเชื่อมอาคารบ่อนคาสิโนแกรนด์ไดมอนด์แล้ว

วันนี้ (3 ม.ค.66) ทางการกัมพูชาเริ่มรื้อถอนโครงสร้างอาคารบ่อนคาสิโนแกรนด์ไดมอนด์ ที่ถูกเพลิงไหม้แล้ว โดยเริ่มรื้อสะพานเชื่อมอาคารบ่อนคาสิโนแกรนด์ไดมอนด์กับอาคารรีสอร์ตแกรนด์ เพื่อให้สามารถใช้เส้นทางในการสัญจรได้ปกติก่อน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเหตุการณ์ไฟไหม้บ่อนกาสิโนแกรนด์ไดมอนด์ซิตี้ ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เมื่อช่วงกลางดึก วันที่ 28 ธันวาคม 2565 จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก รวมทั้งยังมีผู้สูญหายอีกจำนวนหนึ่ง โดยเหตุเกิดเมื่อช่วงเวลาประมาณ 23.00-24.00 น. รอยต่อระหว่างวันที่ 28 ธ.ค.-29 ธ.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดทาง พ.ต.อ.รุ่ง ทองมนต์ ผกก.ตม.จว.สระแก้ว, พ.อ.อนุพงศ์ มูลบรรจบ ผบ.ชค.ทพ.13 และ พ.ต.อ.พัฒนชัย ภมรพิบูลย์ ผกก.สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว ในฐานะชุดกองอำนวยการร่วมฝั่งประเทศไทย ได้รับการประสานข้อมูลว่า ทางการกัมพูชาจะเริ่มทยอยรื้อถอนซากอาคารที่ถูกไฟไหม้โดยเร็ว

โดยวันนี้เจ้าหน้าที่กัมพูชาได้มีการติดตั้งกำแพงปิดกั้นเส้นไปเข้าไปยังบริเวณอาคารที่ถูกเพลิงไหม้รอบ และเริ่มทำการรื้อถอนสะพานเชื่อมอาคารบ่อนคาสิโนแกรนด์ไดมอนด์ทั้งสองจุดโดยเร็วเพื่อความปลอดภัย และเพื่อให้สามารถเปิดเส้นทางไปยังวงเวียน ตม.กัมพูชา เนื่องจากปัจจุบันรถยนต์ขนส่งทุกชนิดต้องเลี่ยงไปใช้เส้นทางสะพานหนองเอียน-สตรึงบท เป็นการชั่วคราว หากดำเนินการแล้วเสร็จอาจมีการพิจารณากลับมาใช้เส้นทางด่านคลองลึกเช่นเดิม

ตัวเลข 7 วันอันตราย พื้นที่ จ.สระแก้ว ยอดตายพุ่ง! วันเดียวตาย 4 ศพ สะสม 5 ศพ ผกก.เมืองสระแก้ว โบกรถเอง เพื่อระบายรถที่เดินทางกลับจากเทศกลางปีใหม่ บริเวณแยกสระขวัญ

เมื่อช่วงค่ำวันที่ 2 ม.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณสี่แยกสระขวัญ ถนนสาย 359 สระแก้ว-เขาหินซ้อน ตัดกับถนนสาย 317 สระแก้ว-จันทบุรี พ.ต.อ.เอกอนันต์ หูแก้ว ผกก.สภ.เมืองสระแก้ว จังหวัดสระแก้ว ได้ลงไปโบกรถเองที่บริเวณกลางสี่แยกด้วยตนเอง เนื่องจากตั้งแต่ช่วงบ่ายเป็นต้นมา มีปริมาณรถที่เดินทางมาจากพื้นที่อีสานใต้ผ่านช่องเขาตะโกและช่องตะกิ่ว ผ่านลงมาทาง จังหวัดสระแก้ว ซึ่งมีปริมาณรถสระสมจำนวนมาก จากสี่แยกสระขวัญไปถึงแยกน้ำซับ ทาง ผกก.สภ.เมืองสระแก้ว จึงลงพื้นที่มาอำนวยการสั่งการจราจรด้วยต้นเอง

ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.บุญสาน สินทอง รอง ผบก.ภ.จว.สระแก้ว ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบและอำนวยการจราจรที่บริเวณสี่แยกสระขวัญ เช่นกัน โดยพบว่า มีปริมาณรถที่ออกจากแยกไฟแดง มุ่งหน้าไปเขาหินซ้อน มีการติดชะงักเป็นระยะ ๆ ขณะออกจากแยกไฟแดง จึงซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ตำรวจจารจรเพื่อเดินทางไปตรวจสอบสาเหตุ และได้ดำเนินการแก้ไขร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างสระแก้ว


TRENDING
© Copyright 2022, All rights reserved. Eec Time Thailand
Take Me Top