(9 ม.ค. 66) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังการต้อนรับผู้เดินทางเที่ยวบินแรกหลังจากจีนเปิดประเทศ ว่า เที่ยวบินแรกมาจากเซี๊ยะเหมิน จำนวน 269 คน ในวันนี้จะมีเที่ยวบินจากจีนเข้ามา 15 เที่ยวบิน จำนวน 3,465 คน คาดการณ์ว่าในปี 2566 จะมีผู้เดินทางจากจีนเข้าไทยราว 7-10 ล้านคน จากเดิมที่ก่อนมีโควิด-19 มีราว 20 ล้านคน และผู้เดินทางจากทั่วโลกเข้าไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เป็นสัญญาณดีต่อภาคการท่องเที่ยว คนมีงานทำ และมีโอกาส

“ทั้งหมดเข้ามาภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 ของประเทศไทย ซึ่งมีความเหมาะสมกับสถานการณ์ เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพ ซึ่งเป็นมาตรการที่เหมือนกันสำหรับผู้เดินทางเข้าไทยจากทุกประเทศ และมั่นใจประเทศไทยมีความพร้อมรับผู้เดินทางจากทุกประเทศ ไม่มีการแบ่งแยกจนกว่าจะมีความจำเป็น” นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวว่า สำหรับมาตรการผู้เดินทางเข้าไทยนั้น ยกเลิกการแสดงเอกสารฉีดวัคซีนโควิด-19 เริ่มตั้งแต่ 9 ม.ค.2566 เป็นต้นไป เนื่องจากคณะกรรมการวิชาการตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) โรคติดต่อ พ.ศ.2558 มีการประชุมเมื่อช่วงเช้า มีความเห็นว่า การฉีดวัคซีนโควิด-19 ในประเทศไทยครอบคลุมจำนวนมาก รวมถึง ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกส่วนใหญ่ก็มีการฉีดวัคซีนจำนวนมากแล้ว ขณะที่การกำหนดให้แสดงเอกสารฉีดวัคซีนจะทำให้เกิดความไม่คล่องตัว จึงไม่มีความจำเป็นต้องแสดง ฉะนั้น มาตรการเข้าไทยตอนนี้ คงเหลือต้องมีประกันสุขภาพครอบคลุมการรักษาโรคโควิด-19 สำหรับผู้เดินทางจากประเทศที่กำหนดว่าเมื่อจะกลับเข้าประเทศนั้น ๆ จะต้องแสดงผลการตรวจโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR เพื่อที่หากตรวจพบเชื้อแล้วต้องรักษาในประเทศไทย จะได้มีการรองรับค่าใช้จ่าย

รมว.กระทรวงยุติธรรม นำเจ้าหน้าที่มอบเงินเยียวยา 12 ผู้บาดเจ็บ เหตุเพลิงไหม้ผับ MOUNTAIN B อีกเกือบล้านบาท และก่อนหน้านี้ มอบช่วยเหลือครอบครัวผู้เคราะห์ร้ายไปแล้ว 44 ราย รวมเงินช่วยกว่า 5 ล้าน

วันที่ 9 ม.ค. 2566 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีมอบเงินเยียวยาแก่ผู้เสียหายในคดีอาญา กรณีได้รับบาดเจ็บจากเหตุเพลิงไหม้สถานบันเทิงผับ MOUNTAIN B จำนวน 12 ราย รวมเป็นเงิน 954,104.75 บาท โดยมี นายเรืองศักดิ์ สุวารี อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ พร้อมด้วย นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นายวันชาติ วรรณพราหม ปลัดอาวุโสอำเภอสัตหีบ พ.ต.อ.ปัญญา ดำเล็ก ผกก.สภ.สัตหีบ นายสุทิน ไชยวัฒน์ ผอ.สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดชลบุรี และผู้แทนส่วนราชการในพื้นที่ ร่วมให้การต้อนรับ และเป็นสักขีพยาน ณ ศาลาประชาคม ที่ว่าการอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี

เมื่อวันที่ 7 ม.ค. 2566 เวลา 19.40 น. นายนล สุวัจนานนท์ นายก อบต.เกาะหมาก อำเภอเกาะกูด จังหวัดตราด ได้รับแจ้งว่า ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้เรือสปีดโบ๊ทที่ใช้สำหรับเป็นเรือโดยสารให้บริการรับ-ส่งนักท่องเที่ยว ระหว่างตำบลเกาะหมาก อำเภอเกาะกูด และท่าเทียบเรือ อำเภอแหลมงอบ จังหวัดตราด เหตุเกิดที่บริเวณท่าจอดเรือสปีดโบ๊ท พื้นที่หมู่ 2 ตำบลเกาะหมาก ซึ่งเป็นสถานที่จอดเรือสปีดโบ๊ทของเรือปาหนัน, ซีเทลส์ และเดอะหมาก จำนวน 6 ลำ และเรือไม้ 1 ลำ หลังได้รับแจ้งจึงรีบประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นายอำเภอเกาะกูด และเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ พร้อมนำเจ้าหน้าที่งานป้องกัน อบต.เกาะหมาก และรถดับเพลิง ผู้นำชุมชน ชาวบ้าน อาสากู้ภัย รวมกว่า 100 คน ไปช่วยกันดับเพลิงยังที่เกิดเหตุ

โดยในที่เกิดเหตุเพลิงได้โหมลุกไหม้อย่างรุนแรง เนื่องจากมีลมพัดแรงอย่างต่อเนื่อง ทำให้เจ้าหน้าที่ อบต.เกาะหมาก, ฝ่ายปกครอง และกำนัน, ผู้ใหญ่บ้าน และอาสากู้ภัย ไม่สามารถเข้าไปดับเพลิงที่กำลังโหมลุกไหม้รุนแรงได้ ต้องมีการระดมอุปกรณ์ดับเพลิงของท้องถิ่น ตามบ้านเรือน และของทางสถานประกอบการโรงแรม รีสอร์ต มาช่วยในการดับเพลิงจนสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ต้องใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง หลังจากเพลิงสงบเจ้าหน้าที่ได้พบว่าเรือทั้ง 7 ลำได้ถูกเพลิงไหม้วอดเสียหายทั้งหมด เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมไม่ให้เพลิงขยายวงกว้างออกไปไหม้บ้านเรือนที่อยู่ใกล้เคียง

นายนล สุวัจนานนท์ นายก อบต.เกาะหมาก กล่าวว่า เหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ ยังไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน ต้องรอให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่มั่นใจว่าไม่ได้เกิดจากการวางเพลิง ซึ่งในช่วงเกิดเหตุได้เห็นความร่วมมือของเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงาน ชาวบ้าน ได้เข้ามาช่วยคนละไม้คนละมือ มีอะไรที่พอจะหยิบฉวยได้มาช่วยกัน จนสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ และที่โชคดีการเกิดเพลิงไหม้เรือครั้งนี้ไม่มีประชาชนได้รับอันตราย หรือมีทรัพย์สินอื่น ๆ เสียหาย ซึ่งจากการประเมินความเสียหายในเบื้องต้นน่าจะอยู่ที่ประมาณ 15 ล้านบาท ส่วนเรื่องผลกระทบด้านการท่องเที่ยวนั้นไม่มี นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาท่องเที่ยวเกาะหมากได้ตามปกติ มีเรือให้บริการเพียงพอ

วันที่ 6 มกราคม 2565 บรรยากาศหลังไข่ไก่ปรับขึ้นราคา พบว่าร้านค้าขายไข่ต้มเมืองแปดริ้ว เริ่มทยอยเตรียมปรับขึ้นราคาตามกลไกของตลาด ด้านพ่อค้าไข่ต้ม เผย ลูกค้ามาซื้อเบอร์เล็กลงแทน แต่ได้ปริมาณไข่ที่บนเท่าเดิม ยอมรับการปรับขึ้นราคาไข่ มีผลกระทบกับนักท่องเที่ยวที่ต้องเดินทางมาแก้บนหลวงพ่อโสธรสุดสัปดาห์นี้แน่นอน

จากกรณีที่เครือข่ายสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ ซึ่งประกอบด้วย สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่แปดริ้ว จำกัด, สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ชลบุรี จำกัด, สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่เชียงใหม่-ลำพูน จำกัด และสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ลุ่มแม่น้ำน้อย จำกัด ได้ประกาศปรับราคาไข่ไก่ขึ้น แผงละ 6 บาท หรือฟองละ 20 สตางค์ จาก 3.40 บาท เป็น 3.60 บาท/ฟอง มีผลในวันนี้ (6 ม.ค.66) ผู้สื่อข่าวเดินทางสำรวจ ร้านขายไข่ต้มแก้บนริมถนนเทพคุณากร ทางเข้าวัดโสธรวรารามวรวิหาร อ.เมืองฉะเชิงเทรา

สอบถาม นายชิต เที่ยงพิมล อายุ 71 ปี พ่อค้าขายไข่ไก่ต้ม ร้านครูจ้อยไข่ต้ม เปิดเผยว่า ตนเองรับไข่ไก่มาจากฟาร์มไข่ไก่ที่ ต.เทพราช อ.บ้านโพธิ์ ก่อนจะนำมาขายให้กับประชาชนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาไหว้ มาแก้บนหลวงพ่อโสธร ตอนนี้ยังไม่ได้ปรับขึ้นราคา เพราะยังเป็นไข่เก่าที่ตนเองไปรับมาและยังขายไม่หมด ซึ่งถ้าหากขายไข่ไก่ชุดนี้หมดแล้ว ก็คงต้องปรับขึ้นราคา ตามที่มีการประกาศขึ้นราคาไข่หน้าฟาร์ม

วันนี้ (6 ม.ค.66) ที่โถงแสงจันท์ ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดจันทบุรี นายวิสุทธิ์ ประกอบความดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีเป็นประธานนำหัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ข้าราชการ ผู้แทนสมาคม องค์กรภาคเอกชน และ ประชาชนร่วมกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เนื่องในวันคล้ายวันประสูติ ครบ 3 รอบ วันที่ 8 มกราคม 2566 ภายใต้กิจกรรมโครงการ "ผ้าไทย ใส่ให้สนุก สืบสานอนุรักษ์ศิลป์ ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดิน" เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เนื่องในวันคล้ายวันประสูติ ครบ 3 รอบ วันที่ 8 มกราคม 2566

ทั้งนี้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงพระดำริที่จะรักษาและสานต่อพระราชปณิธานของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถพระบรมราชชนนีพันปีหลวงในการอนุรักษ์และพัฒนาผ้าไทย ให้คงอยู่คู่แผ่นดินไทย พระองค์ได้ทรงมีโอกาสเสด็จฯ ไปเยี่ยมชมผ้าไทยและงานหัตถกรรมพื้นบ้านตามภูมิภาคต่าง ๆ และได้ทอดพระเนตรผลงานที่ถ่ายทอดกันมาจากบรรพบุรุษและได้มีพระดำริ "ผ้าไทย ใส่ให้สนุก" คือ ความสุขที่ได้เลือกใช้ศิลปหัตถกรรมไทย เพื่อให้รายได้กลับสู่ชุมชนเป็นวงจรเศรษฐกิจเชิงมหภาค

วันที่ 6 มกราคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงค่ำของทุกวัน ตั้งแต่กลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมา หลังโรงงานหีบอ้อยเริ่มเปิดรับผลผลิตจากชาวไร่ ประจำปี 2565/66 จังหวัดสระแก้ว ซึ่งจังหวัดสระแก้ว จัดได้ว่า มีพื้นที่ปลูกอ้อยมากที่สุดแห่งหนึ่งในภาคตะวันออก ยังคงพบมีเผาอ้อย เพื่อสะดวกในการตัดอ้อยเข้าโรงงานของแรงงานชาวกัมพูชา ต่างจากการตัดอ้อยสด ที่ต้องใช้เวลาสางใบออกก่อน ทำให้ได้ปริมาณที่น้อยลง แรงงานชาวกัมพูชาจึงนิยมตัดอ้อยไฟไหม้มากกว่าอ้อยสด

ส่วนเจ้าของไร่อ้อยที่มีความพร้อมด้านเครื่องจักร ส่วนหนึ่งก็เริ่มหันไปใช้รถตัดอ้อยที่มีราคาสูง ปัจจุบันมีจำนวนไม่เพียงพอกับจำนวนพื้นที่ปลูก โดยผู้สื่อข่าวได้ออกตระเวนตรวจสอบพื้นที่ปลูกอ้อยในอำเภอหลัก ๆ ในพื้นที่อำเภอวังน้ำเย็น, คลองหาด, วังสมบูรณ์ และวัฒนานคร พบว่า มีการจุดไฟเผาไร่อ้อยทุกวันในพื้นที่ปลูกอ้อย ตั้งแต่เวลาประมาณ 18.00-20.00 น. และช่วงเช้าประมาณ 05.00-06.00 น. จนเกิดเป็นกลุ่มไฟสีแดงเป็นจุด ๆ ทั่วบริเวณ เพื่อนำคนงานกัมพูชาเข้าตัดในวันรุ่งขึ้น

ดังนั้น ทุกเช้าฝุ่นละอองและเขม่าจากใบอ้อย หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “หิมะดำ” จะปลิวไปตกยังบ้านเรือนและพื้นที่ชุมชนต่าง ๆ เต็มบริเวณทุกวัน ขึ้นอยู่กับทิศทางลม สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านที่ไม่ได้ประกอบไปอาชีพนี้อย่างมาก แต่การร้องเรียนทำได้แค่บ่นให้เพื่อนบ้านฟังและโพสต์เฟซบุ๊กระบายความรู้สึกเท่านั้น และการเผายังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง คาดว่า จะมีไปจนถึงสิ้นฤดูกาลหีบอ้อย (4 เดือน) แม้ว่าทางจังหวัดสระแก้วจะประกาศห้ามเผา พร้อมกับกำหนดมาตรการเรื่องความปลอดภัยในการขนส่งอ้อย การตัดอ้อยเข้าโรงงาน และอื่น ๆ ไว้ล่วงหน้า ก่อนเปิดหีบอ้อยก็ตาม

นายมนตรี คำพล นายกสมาคมเกษตรกรชายแดนบูรพา เปิดเผยว่า ปีที่ผ่านมาทั้งประเทศมีการเผาอ้อยประมาณ 27% แต่รัฐบาลกำหนดให้เผาได้ 20% ถือว่าเกินกว่าที่กำหนด ปัญหาคือฝนตกช่วงตัดอ้อย ปัญหาเรื่องแรงงาน ปัญหาเรื่องของโรคโควิดที่เข้ามาระบาดทำให้ปริมาณเกินเป้าหมาย แต่ปีนี้นโยบายรัฐบาลคือ ให้เราลดการเผาเหลืออยู่ 5% แต่ปีนี้เราก็พยายามในส่วนของสมาคมและเกษตรกร

ทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับงบประมาณของรัฐบาลที่จะมาเพิ่มให้เกษตรกรเป็นแรงจูงใจ เรื่องปัจจัยการผลิต ซึ่งถ้าไม่มีปัจจัยการผลิต การตัดอ้อยสด อ้อยไฟไหม้ราคาค่อนข้างต่างกัน ก็คือต้นทุนของชาวไร่ แต่ชาวไร่เอง เรายินดีที่จะสนองนโยบายของรัฐบาล แต่ปีนี้ได้มีการหารือแล้ว ที่จะเสนอคณะรัฐมนตรี แต่ไปติดประเด็นตรงที่ว่า บอร์ดคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ซึ่งตัวแทนโรงงานได้ลาออกไปเมื่อช่วงเดือน ต.ค.65 เพิ่งเสนอชื่อเข้ามา ยังไม่มีการแต่งตั้งและกรรมการอ้อยไฟไหม้ก็จะหารือกันอีกรอบ เพื่อเป็นแนวทางเสนอคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายเพื่อเสนอให้ ครม.เห็นชอบ

ไฟไหม้โรงงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ เร่งระดมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงกว่า 100 นาย เข้าควบคุมเพลิง เร่งสกัดสกั้นในวงจำกัด หลังพบบ่อพักน้ำมันเชื้อเพลิงกว่า 15,000 ลิตร

วันที่ 6 มกราคม 2566 เวลา 03.30 น. นายพิสิษฐ สิริสวัสดินุกูล นายอำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้อย่างรุนแรง ภายในโรงงาน บริษัท สุภาวุฒิ อินดัสทรี จำกัด เลขที่ 44/2 หมู่ 8 ตำบลโป่ง อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี หลังรับแจ้ง จึงรีบประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิง หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ฯ เมืองพัทยา ระดมกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 100 นาย และรถดับเพลิงกว่า 20 คัน เข้าทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุ

โรงงานดังกล่าว เป็นโรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ให้กับแบรนด์รถยี่ห้อดัง ๆ ของประเทศไทย มีพื้นที่ประมาณ 20 ไร่ และ มีโกดังอาคารขนาดใหญ่ทั้งหมด 5 อาคาร โดยพบเพลิงกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง บริเวณอาคารที่ 2 จนทำให้ตัวโกดังถล่มและยุบลงมาทั้งหลังเสียงดังสนั่น นอกจากนี้เปลวเพลิงยังลุกไหม้ และโหมกระหน่ำอย่างรุนแรง ก่อนจะลุกลามไปยังพื้นที่ด้านหลัง ซึ่งเป็นโซนทิ้งขยะประเภทสารเคมี ซึ่งอยู่ติดกับสถานีบริการน้ำมันของโรงงาน

เมื่อวานนี้ (5 ม.ค. 66) ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาประเทศ ว่า สำหรับข้อกำหนดเรื่องการซื้อประกันสุขภาพที่ครอบคลุมการรักษาโควิด-19 ในประเทศที่มีข้อกำหนดว่า จะต้องมีผลตรวจ RT-PCR ก่อนเดินทางกลับเข้าประเทศ ก็เพื่อดูแลนักท่องเที่ยวที่เข้ามาประเทศไทย เพราะหากก่อนขึ้นเครื่องแล้วผลเป็นบวก ก็ไม่สามารถเดินทางกลับได้ ดังนั้น ก็ต้องมีประกันมารองรับ ส่วนเรื่องวงเงินประกันขั้นต่ำ เป็นเรื่องที่ทุกประเทศที่มีกำหนดอยู่แล้ว เป็นปกติของการเดินทาง ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องกังวล

ไต้ก๋งเรือ คว้ามือถือ บันทึกภาพ 'ฉลามวาฬ' สัตว์ใกล้สูญพันธุ์ หลังออกมาว่ายอวดโฉมนักท่องเที่ยว บริเวณหลังเกาะคลุ้ม จังหวัดตราด

เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2566 ผู้สื่อข่าวได้รับการบอกเล่าจาก นายดนัย อึ้งโล้ ไต้ก๋งเรือนำเที่ยวของบริษัท มิสเตอร์ ไข่ ทัวร์ ว่า ขณะกำลังนำนักท่องเที่ยว 15 คน เตรียมลงดำน้ำที่หลังเกาะคลุ้ม อำเภอเกาะช้าง จังหวัดตราด พบฉลามวาฬว่ายขึ้นมาผิวน้ำอวดโฉมอยู่ข้างเรือ ซึ่งเป็นภาพที่หาดูได้ยาก

นายดนัย เล่าว่า เมื่อเวลา 12.00 น. ตนได้ขับเรือพานักท่องเที่ยวออกไปบริเวณหลังเกาะคลุ้ม หมู่เกาะช้าง ขณะกำลังจอดเรือและเตรียมอุปกรณ์ดำน้ำตื้นให้นักท่องเที่ยว ฉลามวาฬตัวยักษ์ ขนาดประมาณ 4 เมตร ได้ว่ายขึ้นมาผิวน้ำบริเวณข้างลำเรือ ตนจึงรีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาบันทึกภาพไว้ ซึ่งนับว่าโชคดีมาก เพราะฉลามวาฬจะมาปรากฏตัวให้เห็นไม่บ่อยนัก หลังจากว่ายอยู่ 10 นาที ฉลามวาฬตัวดังกล่าวก็ว่ายหายไป

‘อนุทิน’ ยันมาตรการรับ ‘นักท่องเที่ยวต่างชาติ’ รัดกุม เผยให้ซื้อประกันสุขภาพ สำหรับประเทศตีกรอบต้องตรวจRT-PCR พร้อมจับมือตั้งศูนย์อำนวยความสะดวกฯ ลั่น!! อย่าตระหนก จนเสียโอกาสฟื้นเศรษฐกิจ เผยจับมือ ‘ศักดิ์สยาม-พิพัฒน์’ รับนักท่องเที่ยวไฟลท์แรกถึงสนามบินสุวรรณภูมิ 12 ม.ค.นี้

(5 ม.ค.66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์หลังประชุมเตรียมความพร้อมรับผู้เดินทางเข้าประเทศจากสาธารณรัฐประชาชนจีน มีกระทรวงคมนาคม กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงสาธารณสุข กรุงเทพมหานคร กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เข้าร่วม ว่า วันนี้เป็นการทำความเข้าใจเรื่องของการรับนักท่องเที่ยว ทั้งด้านการคมนาคม ท่องเที่ยว และสาธารณสุข โดยแต่ละหน่วยงาน รับทราบมาตรการและรับปฏิบัติ ขณะที่ กทม.พร้อมให้ความร่วมมืออย่างดี ยืนยันว่ามีมาตรการพร้อมรับนักท่องเที่ยวในทุกมิติ และสามารถปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมได้ตลอดตามความเหมาะสม โดยจะตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยว สำหรับผู้ประกอบการร้านอาหารขอให้คงมาตรฐานชาพลัส (SHA+) ผู้ให้บริการสวมหน้ากากอนามัย

นายอนุทิน กล่าวว่า ที่ประชุมเห็นว่าประเทศที่มีข้อกำหนดให้นักท่องเที่ยวจะต้องตรวจ RT-PCR ก่อนเดินทางกลับเข้าประเทศตัวเองนั้น จะต้องซื้อประกันสุขภาพ ทุกประเทศไม่เฉพาะแค่ประเทศจีนประเทศ โดยเงื่อนไขของประกันเป็นไปตามหลักสากลในการรักษาพยาบาล และยังครอบคลุมโควิด-19 หากตรวจพบสามารถรักษาตามปกติ ส่วนประเทศใดที่ไม่มีเงื่อนไขต้องตรวจRT PCR ขอแนะนำให้ซื้อประกันสุขภาพไว้เช่นกัน เพื่อความสะดวกด้านต่างๆ หากมีการติดเชื้อหรือเจ็บป่วย จะมีสถานที่รักษา สำหรับประเด็นค่าเหยียบแผ่นดิน ซึ่งเป็นเรื่องของกระทรวงการท่องเที่ยวถือเป็นคนละเรื่องกัน และยังไม่ได้มีผลบังคับใช้